นครปฐม - สาวตีเด็ก 7 ขวบ จับถอดเสื้อผ้ามัดไว้กับเสาไม้เครียดหนัก จนท.บ้านพักเด็กฯ ประสานขอเชิญตรวจสภาพจิต หลังพบความกดดันหลายด้าน ส่วนตัวเด็กพบอาจจะมีสภาวะสมาธิสั้น และเจอพ่อแม่แล้ว ยันไม่แจ้งความเอาผิด ผู้ก่อเหตุมีความเครียด ด้านตำรวจเรียกทำบันทึกข้อหาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เน้นไม่ให้เด็กกลับไปที่เดิม แต่จะส่งกลับไปอยู่กับปู่ที่สระบุรี ขณะที่กระแสชาวเน็ตเตรียมขับไล่สาวมือตีออกจากบ้านเกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ด.ช.แดง (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ ที่ถูก น.ส.รัฐสิฐตา สระศรี หรืออิ๊กคิว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/8 ม.8 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันตีแล้วจับถอดเสื้อผ้ามัดไว้กับเสาไม้ กระทั่งมีผู้บันทึกภาพ และนำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา นายสมชาติ ธีระสุวรรณจักร นายอำเภอบางเลน พ.ต.อ.ชัชพงษ์ สุขบุญชูเทพ ผกก.สภ.บางเลน นางศรัญญา สวัสดิ์กนก หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม ได้นำกำลังตำรวจสายตรวจและทหารจากชุดควบคุมที่ 2 ร.29 พัน 3 เข้าไปตรวจสอบ และช่วยเหลือ พร้อมกับเชิญ น.ส.รัฐสิฐตา มาทำการสอบปากคำเบื้องต้นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ล่าสุด วันนี้ (30 มี.ค.) นางสรัญญา สวัสดิ์กนก หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม เปิดเผยความคืบหน้าถึงเรื่องนี้ว่า ในกรณีดังกล่าวตอนนี้ทุกส่วนได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เชิญตัว น.ส.รัฐสิฐตา สระศรี หรืออิ๊กคิว มาทำการบันทึกข้อตกลงในส่วนของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัวไว้แล้ว ต่อหน้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยมีการนำเรื่องข้อกฎหมายที่ว่าด้วยการกระทำความผิดมาชี้แจงให้ผู้ลงมือก่อเหตุได้ทราบกระบวนการทั้งหมด โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการให้มีการลงบันทึกให้ น.ส.รัฐสิฐตา ทราบเป็นข้อตกลงร่วมกันดังนี้
1.เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้เด็กกลับไปอยู่กับครอบครัวเดิม ซึ่งมีปู่และย่าที่เด็กเคยพักอาศัยอยู่ก่อนที่จังหวัดสระบุรี
2.ไม่อนุญาตให้กลับไปอุปการะในสถานที่เดิมตามที่เป็นสถานที่เกิดเหตุในตลาดบางเลน
3.ผู้ก่อเหตุไม่ประสงค์ที่จะดำเนินต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กโดย น.ส.รัฐสิฐตา ยินยอมรับทำตามข้อเสนอที่บ้านพักเด็กได้มีข้อตกลง
นอกจากนี้ ก่อนหน้าหลังจากเกิดเหตุได้มีการนำเด็กมาตรวจร่างกาย และสภาพจิตใจ โดยร่างกายโดยรวมไม่มีบาดแผลบาดเจ็บสาหัส ส่วนสภาพจิตใจนั้นได้พบนักจิตวิทยาไปแล้ว 1 ครั้ง โดยมีข้อสงสัยว่า จะมีสมาธิสั้น แต่ต้องรอการตรวจซ้ำในวันที่ 7 เม.ย.อีกครั้งเพื่อความแน่ชัด โดยเด็กนั้นมีความซนมากกว่าเด็กปกติทั่วไปถึงขั้นซนมาก ซึ่งส่วนนี้น่าจะเป็นสาเหตุของการที่ผู้ก่อเหตุนั้นจะเกิดความเครียดสะสมมายาวนาน และไม่รู้ว่าเด็กมีสภาวะของการเสี่ยงจะมีการป่วยด้วยอาการสมาธิสั้น จึงสั่งสอน และเมื่อไม่เชื่อฟังจึงได้ลงโทษหนักขึ้นจนตกเป็นข่าว
นางศรัญญา บอกอีกว่า ตอนนี้หลังจากมีการสอบถามข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว จึงได้พบว่า น.ส.รัฐสิฐตา นั้นน่าจะมีความเครียด และมีอาการกดดันแฝงมายาวนานในเรื่องครอบครัว จึงขอให้มีการได้รับการเข้าการตรวจด้านสภาวะจิตใจ โดยจิตแพทย์เพื่อปรับทัศนคติ และหาสาเหตุของความเครียดอย่างละเอียด เนื่องจากตอนนี้ได้รับความกดดันถึงขั้นต้องขอพักงาน ส่งผลทำให้คนในครอบครัวทั้งหมด 8 คน ต่างต้องกดดันไปด้วย เพราะถือเป็นหัวแรงในการหารายได้เข้าครอบครัว โดยเจ้าตัวก็พร้อมยินยอมที่จะเข้ารับการตรวจ หากพบมีการป่วยก็จะให้เข้ารับการบำบัดต่อไป
ในส่วนคดีความในส่วนนี้ถือว่าจบสิ้นแล้วสำหรับงานของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนคปฐม ขั้นต่อไปก็จะเป็นของตำรวจที่จะมีการดำเนินการในการนำข้อบันทึกร่วมกันเป็นหลักฐานซึ่งมีข้อที่บอกว่า จะไม่มีการกระทำความผิดอีกหากทำอีกจะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายอาญาต่อไป แต่ถึงจุดนี้แล้วคงจะจบ เพราะจะมีการแยกครอบครัวทั้งหมดต่อไป
สำหรับ ด.ช.แดง นั้นตอนนี้ได้พบกับพ่อแม่ ปู่ย่าแล้ว โดยหลังพูดคุยกันเพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประสาน ทั้งพ่อและแม่ยินดีจะไม่เอาความผิดทางอาญาต่อ น.ส.รัฐสิฐตา เนื่องจากหลังเกิดเหตุได้มีการเข้าไปพบ และสอบถามข้อมูล โดย น.ส.รัฐสิฐตา ได้กราบขอโทษไปแล้ว
ส่วนที่ต้องทิ้งเด็กไว้กับครอบครับของ น.ส.รัฐสิฐตา เนื่องจากพ่อกับแม่ได้แยกทางกัน และตัวบิดาต้องไปทำงานที่เกาะช้าง 2-3 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่มีนบุรี กรุงเทพฯ แต่ยังไม่พร้อมจึงยังไม่ได้กลับมารับลูกชายกลับไปดูแล ทั้งนี้ ยังได้แจ้งความประสงค์ให้เด็กกลับไปอยู่บ้านของปู่กับย่าของเด็ก ซึ่งเป็นสถานที่ที่เด็กเคยอยู่มาก่อน โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม ได้ประสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นปลายทาง เพื่อสอบประวัติและสอบถามความพร้อมต่างๆ ที่จะรับเด็กไปอุปการะตามขั้นตอนของหน่วยงานต่อไป โดยจะมีการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของจิตแพทย์เป็นขั้นตอน ซึ่งน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปพบกับ ด.ช.แดง ซึ่งยังพักอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม โดยมีเจ้าหน้าที่ และพี่เลี้ยงคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยพบว่า ร่างกายนั้นดีขึ้นมากและบาดแผลได้ตกสะเก็ดหายเกือบหมด และได้สอบถามว่ามีความเครียดหรือไม่ พบว่าไม่มีความเครียดหลงเหลือแล้ว โดยบอกว่า ได้พบหน้าพ่อแล้ว ครั้งแรกที่พบพ่อได้เข้ามากอดและบอกว่า พ่อขอโทษ และได้ให้เงิน 240 บาท เก็บไว้ให้กินขนม และบอกว่าจะมาหาอีกและจะมารับอีกครั้ง เมื่อถามว่าโกรธพ่อหรือไม่ที่ทิ้งไป ด.ช.แดง บอกว่าไม่โกรธแล้ว และรักพ่อ แต่อยากกลับไปอยู่กับปู่กับย่าในอนาคต
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดตามพบว่า กระแสโซเชียลสังคมออนไลน์ในเฟซบุ๊กได้มีการขอรวบรวมรายชื่อเพื่อจะไปสอบถามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีกลุ่มคนในตลาดเก่าบางเลน ได้เคลื่อนไหวจะขับไล่ น.ส.รัฐสิฐตา ให้ออกไปอาศัยนอกพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่ง น.ส.รัฐสิฐตา ได้ทราบถึงข้อมูลแล้ว และเกิดความเครียด เนื่องจากหยุดงานมาแล้วหลายวัน โดยตอนนี้ก็ไม่ได้อาศัยในบ้านหลังดังกล่าว และได้แยกย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่กับแฟนใหม่ที่นอกพื้นที่ก่อนหน้านี้แล้ว