xs
xsm
sm
md
lg

‘ลี กวนยู’ กับ ‘เกาหลีเหนือ’

เผยแพร่:   โดย: แบรดลีย์ เค. มาร์ติน

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Lee Kuan Yew and North Korea
By Bradley K. Martin
24/03/2015

ภายหลังการถึงแก่อสัญกรรมของ ลี กวนยู เกาหลีเหนือได้ส่งสารแสดงการไว้อาลัยโดยระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ผู้นี้เป็น “มิตรสนิทคนหนึ่งของประชาชนเกาหลีเหนือ” สิงคโปร์ กับ เกาหลีเหนือนั้นดูจะมีสิ่งที่เหมือนๆ กันอยู่หลายอย่าง เช่น ระบอบปกครองเผด็จการที่มีการสืบทอดอำนาจแบบสายโลหิต ทว่า ลี เองเคยแสดงทัศนะซึ่งแสดงความรังเกียจคณะผู้ปกครองโสมแดงอย่างชัดเจน

เนื่องจาก ลี กวนยู เป็น “มิตรสนิทคนหนึ่งของประชาชนเกาหลีเหนือ” ซึ่ง “ได้ถึงแก่อสัญกรรม (จึง) ยังความโศกเศร้าให้แก่พวกเขา (ประชาชนเกาหลีเหนือ)” นี่เป็นข้อความที่นายกรัฐมนตรี ปัก ปองจู (Pak Pong Ju) แห่งเกาหลีเหนือประจงระบุเอาไว้ในสารไว้อาลัย (ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.straitstimes.com/news/singapore/more-singapore-stories/story/north-korea-expresses-condolence-singapore-over-death-mr)

จริงๆ แล้ว ระหว่างสิงคโปร์กับเกาหลีเหนือก็มีหลายๆ สิ่งร่วมกันอยู่ เริ่มตั้งแต่ข้อเท็จจริงอันเห็นได้อย่างชัดเจนที่ว่า ทั้งสองประเทศต่างถูกปกครองโดยระบอบปกครองเผด็จการที่มีการสืบทอดอำนาจแบบสายโลหิต กระนั้นก็ตามที แม้กระทั่ง โกปาลัน นาอีร์ (Gopalan Nair) ทนายความผู้ถือกำเนิดและเติบโตในสิงคโปร์ แต่ต้องไปขอลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ ก็ยังเขียนเอาไว้ในบล็อกของเขาที่ใช้ชื่อว่า “Singapore Dissident” (ผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลสิงคโปร์) ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว( http://singaporedissident.blogspot.com/2014/10/singapore-is-not-north-korea-lee-kuan.html ) ยอมรับว่า “สิงคโปร์ไม่ใช่เกาหลีเหนือ” (นาอีร์แสดงความเห็นเอาไว้ในทางบวก โดยบอกว่า เมื่อพิจารณากันในระยะยาวแล้ว “เป็นไปไม่ได้ที่จะปกครองประเทศเฉกเช่นสิงคโปร์ด้วยการใช้กำลังป่าเถื่อนรุนแรงเพียงอย่างเดียว แบบที่สามารถกระทำได้ในเกาหลีเหนือ” เขายังทำนายเอาไว้ด้วยว่า ภายหลังการถึงแก่อสัญกรรมของ ลี ผู้บิดา นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง “อาจจะถูกเขี่ยออกไป”)

บางที ลี กวนยู อาจจะเป็น “มิตรสนิทผู้หนึ่งของประชาชนเกาหลีเหนือ” จริงๆ ก็ได้ ไม่ว่ามันจะมีราคาค่างวดอะไรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตามรายงานฉบับหนึ่งในปี 2009 ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสิงคโปร์ ซึ่งส่งถึงกระทรวงการต่างประเทศอเมริกัน และรั่วไหลถูกนำออกเผยแพร่ในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ “เดอะ การ์เดียน” (http://www.theguardian.com/world/us-embassy-cables-documents/210110) ลีนั้นเชื่อว่าพวกผู้นำเกาหลีเหนือ “ได้ถูกโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานานจนกระทั่งพวกเขาไม่มีเพื่อนมิตรเอาเลย”

ในรายงานฉบับนี้ ซึ่งมีการสรุปคำพูดข้อสังเกตที่เขากล่าวในระหว่างการพบปะกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายราย มาอ้างอิงเอาไว้นั้น ลีแสดงความคิดเห็นว่า ระบอบปกครองเปียงยางเป็นระบอบซึ่งเต็มไปด้วยผู้คน “ประเภทจิตวิปลาส โดยมีผู้นำเป็น ‘ชายแก่หย่อนยานปวกเปียก’ คนหนึ่ง ซึ่งจะคอยเที่ยวส่ายอาดๆ ไปทั่วสนามกีฬาต่างๆ เพื่อรอฟังคำยกยอปอปั้น” ทั้งนี้ “ชายแก่หย่อนยานปวกเปียก” คนดังกล่าว ย่อมต้องเป็น “ท่านผู้นำอันเป็นที่รัก คิม จองอิล” (Dear Leader Kim Jong Il) คนก่อน ซึ่งได้ถึงแก่อสัญกรรมไปในเดือนธันวาคม 2011 –ขออย่าได้สับสนกับบุตรชายและทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา ซึ่งคือ “ท่านจอมพลที่เคารพ คิม จองอึน” (Respected Marshal Kim Jong Un) ที่สมควรต้องบรรยายว่าเป็น “ชายหนุ่มหย่อนยานปวกเปียกคนหนึ่ง ซึ่งจะคอยเที่ยวส่ายอาดๆ ไปทั่วสนามกีฬาต่างๆ เพื่อรอฟังคำยกยอปอปั้น”

อย่างไรก็ตาม ความรังเกียจที่ ลี มีต่อคณะผู้นำเกาหลีเหนือ ไม่ได้ส่งอิทธิพลทำให้เขาทำนายทายทักว่าระบอบปกครองนี้จะถึงแก่ความพินาศในระยะเวลาอันสั้น ตามรายงานของสถานเอกอัครราชทูตอเมริกัน รัฐบุรุษของสิงคโปร์ผู้นี้ตั้งข้อสังเกตว่า “จากสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาในระหว่างใช้ชีวิตช่วงซึ่งญี่ปุ่นเข้ายึดครองสิงคโปร์อยู่เป็นเวลา 3 ปีครึ่ง เขาได้เห็นว่าประชาชนพร้อมที่จะเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ผู้ซึ่งสามารถปฏิเสธไม่ให้พวกเขาได้รับอาหาร, เสื้อผ้า, และยาได้”

ลี ยังพูดถึงเรื่องความสามารถที่จะคงอยู่ในอำนาจของระบอบปกครองเปียงยางนี้อีก ในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2005 แก่นิตยสารรายสัปดาห์ แดร์ ชปีเกล (ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.spiegel.de/international/spiegel/spiegel-interview-with-singapore-s-lee-kuan-yew-it-s-stupid-to-be-afraid-a-369128.html) พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า การมีระเบิดนิวเคลียร์ คือ อาวุธวิเศษของตระกูลคิม โดยเขาพูดไว้ดังนี้: “ผู้นำในเกาหลีเหนือเชื่อว่าความอยู่รอดของพวกเขาต้องขึ้นอยู่กับการมีระเบิดสักลูกนึง –อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีระเบิดนิวเคลียร์สักลูกนึง ไม่อย่างนั้นแล้ว ไม่ช้าไม่นานพวกเขาก็จะต้องล่มสลาย และผู้นำจะต้องถูกจับตัวขึ้นไต่สวนดำเนินคดี แบบเดียวกับ (อดีตประธานาธิบดียูโกสลาเวีย สโลโบดัน) มิโลเซวิช (Slobodan Milosevic) สำหรับความผิดทางอาญาทั้งหลายทั้งปวงที่พวกเขากระทำไป พวกเขาไม่มีทางยอมปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาหรอก”

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า ในความคิดของลี ตระกูลคิมจะสามารถรักษาอำนาจเอาไว้ได้ตลอดกาล “ในระยะยาวแล้ว ผมคิดว่าพวกเขาจะเกิดการระเบิดตูมตามขึ้นมาจากภายใน” เขาบอกกับนิตยสารรายสัปดาห์ชื่อดังของเยอรมนีฉบับนี้ “เนื่องจากระบบของพวกเขาไม่สามารถอยู่รอดได้หรอก พวกเขาสามารถมองเห็นจากจีน พวกเขาสามารถมองเห็นจากรัสเซียและเวียดนาม ทุกๆ ประเทศเหล่านี้ต่างกำลังเปิดประตูกันทั้งนั้น แต่ถ้าพวกเขาเปิดประตู ระบบการควบคุมประชาชนของพวกเขาก็จะต้องพังครืน ดังนั้นพวกเขา (จึงไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้) จะต้องไป”

นี่แหละ มิตรสนิทคนหนึ่งที่เกาหลีเหนือมี ....

แบรดลีย์ เค. มาร์ติน เป็นผู้สื่อข่าวที่มีประสบการณ์สูงในการทำข่าวเกี่ยวกับเกาหลีเหนือและเอเชีย เขาเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Under the Loving Care of the Fatherly Leader: North Korea and the Kim Dynasty”
กำลังโหลดความคิดเห็น