เอเอฟพี - ตำรวจเกาหลีใต้สรุปสำนวนส่งอัยการในคดีคนร้ายใช้มีดกรีดใบหน้าทูตสหรัฐฯ มาร์ก ลิปเพิร์ต วันนี้ (13 มี.ค.) ระบุเป็นการ “ทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” และเข้าข่ายพยายามฆ่า
ลิปเพิร์ต วัย 42 ปี ถูกคมมีดกรีดเป็นแผลลึกที่แก้มด้านขวาและมือซ้าย หลังถูก คิม คี-จอง ซึ่งเป็นพวกชาตินิยมหัวรุนแรง บุกเข้าไปทำร้ายที่งานเสวนาช่วงเช้าตรู่ในกรุงโซล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“จากการสอบสวนสรุปได้ว่า ผู้ต้องหามีเจตนาที่จะฆ่า” คิม ชุล-จุน นายตำรวจระดับสูงประจำสำนักงานตำรวจกรุงโซล แถลงต่อสื่อมวลชน
“คนร้ายได้ไตร่ตรอง และตระเตรียมการมาเป็นอย่างดี”
คิม คี-จอง ซึ่งเคยก่อคดีขว้างปาหินใส่ทูตญี่ปุ่นประจำกรุงโซลเมื่อปี 2010 ยืนกรานว่าตนไม่มีเจตนาที่จะทำร้าย ลิปเพิร์ต ถึงตาย
ทีมแพทย์ต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งในการเย็บใบหน้าของทูตสหรัฐฯ ถึง 80 เข็ม
คิม วัย 55 ปี บอกกับพนักงานสอบสวนว่า ลิปเพิร์ต เป็น “เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์” ที่ตนต้องการทำร้าย เพื่อคัดค้านปฏิบัติการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ซึ่งตนเห็นว่าเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการรวมชาติกับเกาหลีเหนือ
หนุ่มใหญ่รายนี้ยังยืนยันว่าคิดเองทำเองทั้งหมด ไม่ได้รับใบสั่งจากเปียงยาง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และจะสืบหาตัวบุคคลที่อาจสมรู้ร่วมคิดด้วยต่อไป
การกระทำของคิมยังอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายความมั่นคงเกาหลีใต้ ซึ่งห้ามพลเมืองแสดงพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายช่วยเหลือ หรือส่งเสริมค่านิยมของรัฐโสมแดง
รัฐบาลเกาหลีเหนือปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการทำร้ายทูตสหรัฐฯ พร้อมประณามกรุงโซลว่าจงใจ “ป้ายสี”
ตำรวจซึ่งเข้าตรวจค้นบ้านของคิมได้ยึดหนังสือและข้าวของจำนวนหนึ่งไว้เป็นหลักฐาน
คิม คี-จอง มีประวัติข้ามแดนไปเกาหลีเหนือ 7 ครั้ง และเคยถึงขั้นพยายามตั้งอนุสาวรีย์ที่กรุงโซลเพื่อรำลึกถึงอดีตผู้นำ คิม จองอิล ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปลายปี 2011