ผู้นำตูนิเซียประกาศ “สงคราม” กับผู้ก่อการร้าย หลังเกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในพิพิธภัณฑ์

เอเอฟพี – ประธานาธิบดีตูนิเซียประกาศทำสงครามต่อต้านลัทธิก่อการร้ายอย่างไม่ปรานี หลังเกิดเหตุมือปืน 2 รายบุกกราดยิงพิพิธภัณฑ์ในกรุงตูนิสกลางวันแสกๆ เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวตูนิเซียเสียชีวิตรวม 19 คน บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน

เหตุโจมตีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบาร์โดเรียกเสียงประณามจากทั่วโลก ขณะที่ประธานาธิบดี เบจ คาอิด เอสเซ็บซี แห่งตูนิเซีย ลั่นวาจาว่าจะต่อสู้ “จนลมหายใจสุดท้าย”

“ผมขอให้ชาวตูนิเซียทุกคนเข้าใจว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่สงครามกับลัทธิก่อการร้าย และเราไม่เกรงกลัวคนชั่วช้ากลุ่มเล็กๆ นี้” เอสเซ็บซี กล่าว หลังจากเดินทางไปเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตูนิส

กลุ่มมือปืนซึ่งแต่งเครื่องแบบทหารได้เปิดฉากลั่นกระสุนใส่นักท่องเที่ยวที่กำลังลงจากรถบัส จากนั้นก็วิ่งไล่ต้อนเหยื่อเข้าไปภายในพิพิธภัณฑ์

โนริโกะ ยูกิ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นวัย 35 ปีที่รอดชีวิต ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคว่า เธอและแม่ตกอยู่ท่ามกลางห่ากระสุนของคนร้าย “ฉันหมอบลงและยกมือเหนือศีรษะ แต่ก็ยังถูกยิงเข้าที่หู มือ และคอ”

“แม่ฉันที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกยิงที่คอ เธอขยับตัวไม่ได้ จนกระทั่งตำรวจเข้ามาช่วย”

ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคมกระสุนของคนร้ายภายในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบาร์โดในกรุงตูนิส ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศส, สเปน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อิตาลี และโปแลนด์ รวมถึงชาวตูนิเซีย 2 คน

ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตที่รัฐบาลแต่ละประเทศแจ้งมายังแตกต่างไปบ้างจากรายละเอียดที่แถลงโดยนายกรัฐมนตรี ฮาบีบ เอสซิด แห่งตูนิเซีย ซึ่งระบุว่ามีชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตถึง 5 ราย, ชาวอิตาลี 4 ราย, ชาวโคลัมเบีย 2 ราย ส่วนออสเตรเลีย, โปแลนด์, ฝรั่งเศส และสเปน มีผู้เสียชีวิตประเทศละ 1 ราย

เจ้าหน้าที่ยังไม่ระบุสัญชาติของผู้เสียชีวิตรายที่ 16 ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็ยังไม่มีการสรุปออกมาชัดเจนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวจากเมืองน้ำหอมถูกยิงเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 7 คน โดยคนหนึ่งอาการสาหัส

นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น แถลงว่า มีพลเมืองญี่ปุ่นเสียชีวิตไป 3 คน และบาดเจ็บอีก 3 คนจากเหตุกราดยิงที่ตูนิเซีย ซึ่งโตเกียวประณามว่าเป็น “การก่อการร้ายที่เลวทราม”

กระทรวงการต่างประเทศอิตาลีประกาศยอดผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีก 6 คน ซึ่งรัฐบาลได้แจ้งให้ครอบครัวผู้เสียหายทราบเรื่องแล้ว

กระทรวงการต่างประเทศโคลัมเบียแถลงว่า สองแม่ลูกชาวโคลัมเบียอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 17 คนที่เสียชีวิตในเหตุกราดยิงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติตูนิเซีย แต่ชายซึ่งเป็นสามีรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

โฮเซ มานูเอล การ์เซีย-มาร์กัลโล รัฐมนตรีต่างประเทศสเปน ระบุว่า มีชาวสเปนเสียชีวิต 2 คนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวสเปนที่ลงจากเรือสำราญ 2 ลำเพื่อเข้าไปท่องเที่ยวในกรุงตูนิส เรือลำหนึ่งมีพลเมืองสเปนอยู่ 60 คน ส่วนอีกลำมีอยู่ 30 คน

“ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อาจจะมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บมากกว่าที่ทราบ” การ์เซีย-มาร์กัลโล แถลงต่อสื่อมวลชน

ราดอสลาฟ ไซกอร์สกี ประธานสภาผู้แทนราษฎรโปแลนด์ ระบุว่า “ดูเหมือนจะมีชาวโปแลนด์เสียชีวิต 7 ราย” ที่ตูนิเซีย ส่วนกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ยังยืนยันเฉพาะยอดผู้บาดเจ็บ 11 รายเท่านั้น

ด้านกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษแถลงว่า มีชาวอังกฤษ 2 ราย “อยู่ในที่เกิดเหตุ” ขณะคนร้ายลงมือกราดยิง แต่ไม่ได้กล่าวโดยละเอียดว่าพวกเขาบาดเจ็บหรือไม่

กลุ่มมือปืนที่บุกเข้าไปภายในพิพิธภัณฑ์ยังได้ลั่นกระสุนสังหารคนขับรถและตำรวจตูนิเซียดับอีก 2 ราย

นายกฯ ตูนิเซีย ระบุว่า กองกำลังความมั่นคงวิสามัญคนร้ายไปแล้ว 2 ราย และกำลังตามล่าหาตัวผู้สมรู้ร่วมคิด