เอเอฟพี - ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียปฏิเสธกระแส “ข่าวลือ” เกี่ยวกับสุขภาพของเขาและสถานที่ที่เขาอยู่ ขณะที่เขากลับมาปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกครั้งในวันนี้ (17 มี.ค.) หลังจากหายหน้าหายตาอย่างผิดปกติไปนานถึง 10 วัน
กระแสการการเดาดังกล่าวที่มีสื่อสังคมออนไลน์คอยเติมเชื้อไฟ ทำให้ทุกสายตาจับจ้องที่แผนการพบปะกันที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไรระหว่าง ปูติน กับผู้นำคีร์กิสถาน เพื่อดูว่าบุรุษเหล็กแห่งรัสเซียผู้นี้จะออกมาปรากฏตัวหรือไม่
แม้กำหนดการพบปะดังกล่าวจะล่าช้าออกไป 2 ชั่วโมง แต่ ปูติน ก็ปรากฏตัวออกมาด้วยท่าทีที่ดูผ่อนคลายและไม่มีสัญญาณของสุขภาพที่ทรุดโทรมแต่อย่างใด สยบข่าวลือต่างๆ นานาที่เผยให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบการเมืองที่ปกครองโดยคนคนเดียวของรัสเซีย
“เราคงเบื่อกันถ้าหากไม่มีข่าวลือเลย” ปูตินกล่าว ขณะที่พบปะกับประธานาธิบดีอัลมัซเบค อาตัมมาเยฟ แห่งคีร์กิสถานที่พระราชวังคอนสแตนตินอฟอันโออ่านอกนครเซนปีเตอร์เบิร์ก
ในความพยายามที่ชัดเจนว่าเป็นการช่วยสยบข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพที่ย่ำแย่ของเจ้าบ้าน อาตัมเบเยฟ กล่าวว่า ปูติน ขับรถพาเขาเที่ยวชมรอบพื้นที่พระราชวังก่อนการประชุม
เขาปฏิเสธเขาลือดังกล่าว โดยกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “เป็นเรื่องที่เพ้อฝันกันเอาเอง”
ปูติน วัย 62 ปี ถูกเห็นครั้งสุดท้ายในที่สาธารณะเมื่อวันที่ 5 มีนาคมในการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี มัตเตโอ เรนซี ของอิตาลี
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวลือดังกล่าวแพร่สะพัดหนัก เมื่อเขายกเลิกกิจกรรมต่างๆ ตามกำหนดการ รวมถึงการเดินทางเยือนประเทศแถบเอเชียกลางอย่างคาซัคสถาน และแผนลงนามข้อตกลงพันธมิตรกับแคว้นออสเซเทียใต้ที่แยกตัวออกมา
แม้ว่าเครมลินจะยังคงเผยแพร่คลิปวิดีโอการประชุมครั้งๆ ต่างที่มี ปูติน ร่วมอยู่ แต่หลายคนก็คาดเดาว่า คลิปวิดีโอเหล่านั้นคงจะถูกอัดไว้ก่อนหน้าที่จะนำมาออกอากาศนานมากแล้ว
การหายหน้าหายตาไปอย่างผิดปกติของเขาในครั้งนี้ก่อให้เกิดกกระแสการคาดเดาถึงเหตุผลต่างๆ นานาของการหายหน้าไป เช่นที่ว่า เขาได้ทายาทคนใหม่, ถูกปลดจากตำแหน่งในการรัฐประหาร, ล้มป่วย, ไปทำศัลยกรรมเสริมความงาม หรือกระทั่งเสียชีวิต
มุกตลกขำขันแพร่หลายอย่างกับไฟป่าในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของแดนหมีขาว ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเสรีภาพในการพูดแห่งสุดท้ายในรัสเซีย และการขึ้นแฮชแท็กว่า # Putinumer (#ปูตินตายแล้ว) ก็กลายเป็นกระแสในทวิตเตอร์
มิตรี เปสคอฟ โฆษกของเขา กล่าวว่า ปูติน แข็งแร็งดี และปฏิเสธข่าวลือต่างๆ โดยชี้ว่าเป็น “ความบ้าบอในเดือนมีนาคม” (March madness)
เขากล่าวว่า ปูติน ง่วนอยู่กับวิกฤตเศรษฐกิจของแดนหมีขาว และมี “การประชุมพบปะอยู่ตลอด แต่การประชุมเหล่านั้นไม่ได้เปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ”