เอเอฟพี – เมื่อวานนี้(9)มีการเปิดเผยความคืบหน้าในการตามหาเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่หายไปว่า ซองผ้าเย็นที่มีโลโก้สายการบินติดอยู่ซึ่งถูกพบบนชายหาดเวสเทิร์นออสเตรเลีย 4 เดือนหลังเกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถยืนยันความเกี่ยวข้องระหว่างสิ่งที่พบและเที่ยวบินที่หายไป และไม่คิดว่าซองผ้าเย็นนี้จะสามารถใช้เพื่อตามหา MH370 ได้
เที่ยวบิน MH370ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่หายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 พร้อมทั้งคนทั้งหมด 239 คนที่อยู่บนเครื่อง และมาจนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถพบเครื่องบินสูญหายลำนี้แต่อย่างใด ซึ่งมีการสันนิษฐานว่า MH370 ตกในมหาสมุทรอินเดียนอกชายฝั่งออสเตรเลียตะวันตก
และมีการเปิดเผยล่าสุดว่า มีการพบซองผ้าเย็นที่มีโลโก้สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางพนักงานเครื่องมักแจกจ่ายให้ผู้โดยสารในอาหารระหว่างมื้อถูกค้นพบ 4 เดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์หายไปของเที่ยวบินปริศนา โดยพบซองผ้าเย็นตกอยู่บริเวณชายหาดเทอร์สตี พอยต์ (Thirsty Point) ห่างจากเพิร์ธไปทางเหนือราว 200 กม.
ด้านสำนักงานกลางควบคุมความปลอดภัยทางขนส่งของออสเตรเลีย ATSB ที่เป็นผู้นำทีมการค้นหาใต้น้ำ ได้ตรวจสอบสิ่งของต่างๆที่ถูกพบบนชายหาดออสเตรเลีย และระบุว่า สิ่งต่างๆที่ได้นำมาตรวจสอบนั้นไม่มีหลักฐานแน่นหนาเชื่อมโยงกับ MH370 รวมถึงซองผ้าเย็นติดโลโก้สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สซองนี้เช่นกัน
“ซองผ้าเย็นติดโลโก้มาเลเซียแอร์ไลน์สขนาด 6 ซม x 8 ซม ถูกพบบนชายหาดเทอร์สตี พอยต์ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2014และถูกนำส่งให้ตำรวจเวิสเทิร์นออสเตรเลียหลังจากนั้น” ATSB กล่าวผ่านแถลงการณ์หลังจากการค้นพบซองผ้าเย็นถูกเผยแพร่ผ่านสื่อออสซี
“และเป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งของเครื่องใช้ที่พบได้ตามปกติบนเครื่องไม่มีลักษณะเฉพาะที่จะบ่งชี้ว่าเกี่ยวพันกับ MH370” ATSB แถลงเพิ่มเติม
โดยก่อนหน้านี้ ผลการตรวจสอบในวาระครบ 1 ปีความยาว 584 หน้า ซึ่งชี้แจงผลการสอบสวนที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการสูญหายของเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ลำนี้ ระบุว่า แบตเตอรีของอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินซึ่งจะส่งสัญญาณระบุตำแหน่งในกรณีที่เครื่องบินตกลงทะเล หมดอายุไปตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2012 และไม่ได้รับการเปลี่ยนใหม่ ซึ่งสำนักงานการบินพลเรือนมาเลเซีย ชี้แจงว่า ระบบคอมพิวเตอร์ฝ่ายวิศวกรรมของมาเลเซียแอร์ไลน์สทำงานผิดพลาด เป็นเหตุให้ฝ่ายซ่อมบำรุงตรวจไม่พบว่าแบตเตอรีหมดอายุ
แต่ทางบริษัทมาเลเซียแอร์ไลนส์ ยังยืนยันว่า แบตเตอร์รีในกล่องดำที่เก็บข้อมูลในห้องนักบินนั้นสามารถอยู่ได้ถึง 30 วัน และจะเริ่มทำงานหลังจากที่เครื่องตกลงไปยังมหาสมุทร และจะเริ่มส่งสัญญาณปิงออกมา
ภารกิจค้นหาในเขตน่านน้ำ 60,000 ตารางกม. ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ธไปทางตะวันตกราว 1,600 กม.ยังไม่พบชิ้นส่วนที่จะยืนยันการตกของเครื่องบินได้แม้แต่ชิ้นเดียว และอาจจะต้องยุติลงกลางคันในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากรองนายกรัฐมนตรีแดนจิงโจ้ โทนี แอบบ็อต ออกมาแถลงในหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า กำลังมีการหารือระหว่างออสเตรเลีย มาเลเซีย และจีน ว่าสมควรปิดฉากการค้นหาที่ยืดเยื้อนี้หรือไม่
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย และรัฐบาลจีน ยังยืนกรานว่าเต็มใจที่จะสนับสนุนภารกิจค้นหา MH370 ต่อไป