รอยเตอร์ - ผลการตรวจสอบในวาระครบ 1 ปี ซึ่งพบว่า แบตเตอรีกล่องดำของเที่ยวบิน MH370 “ไฟหมด” ตั้งแต่ก่อนเครื่องตก เป็นประเด็นสำคัญที่จะใช้ฟ้องร้องเอาผิดกับสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สได้ ทีมทนายซึ่งเป็นตัวแทนญาติผู้โดยสารแถลงวันนี้ (9 มี.ค.)
สำนักงานกฎหมาย Kreindler & Kreindler LP ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนญาติผู้โดยสารราว 20 ครอบครัว ระบุว่า แบตเตอรีที่หมดอายุเป็นข้อมูลสำคัญที่จะใช้เรียกร้องค่าเสียหายจากมาเลเซียแอร์ไลน์ส หากพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาเครื่องบิน
รายงานความยาว 584 หน้า ซึ่งชี้แจงผลการสอบสวนที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการสูญหายของเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ลำนี้ ระบุว่า แบตเตอรีของอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินซึ่งจะส่งสัญญาณระบุตำแหน่งในกรณีที่เครื่องบินตกลงทะเล หมดอายุไปตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2012 และไม่ได้รับการเปลี่ยนใหม่
สำนักงานการบินพลเรือนมาเลเซีย ชี้แจงว่า ระบบคอมพิวเตอร์ฝ่ายวิศวกรรมของมาเลเซียแอร์ไลน์สทำงานผิดพลาด เป็นเหตุให้ฝ่ายซ่อมบำรุงตรวจไม่พบว่าแบตเตอรีหมดอายุ
“สายการบินนี้ปล่อยให้เครื่องบินและลูกเรือเดินทางออกไป ทั้งๆ ที่อุปกรณ์สำคัญบนเครื่องแบตเตอรีหมด มิหนำซ้ำยังปฏิเสธที่ชดเชยค่าเสียหายอย่างเหมาะสมต่อญาติผู้โดยสาร จนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้ว่าเสียหายอย่างไรบ้าง และยังไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันการตกของเครื่องบินได้ด้วย” จัสติน กรีน ทนายฝ่ายคดีการบินของสำนักงานทนายความ Kreindler & Kreindler LP ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ทางอีเมล
“เวลานี้เห็นได้ชัดว่า สายการบินอาจจะต้องรับผิดชอบที่การค้นหาไม่ประสบความสำเร็จ”
เมื่อเดือนมกราคม มาเลเซียแอร์ไลน์สได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า การสูญหายของเที่ยวบิน MH370 เป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะเปิดโอกาสให้ญาติผู้โดยสารขอรับค่าชดเชย ในขณะที่ภารกิจค้นหาก็ยังดำเนินต่อไป
พนักงานสอบสวนเชื่อว่า เครื่องบินลำนี้พาผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต ออกนอกเส้นทางไปไกลหลายพันไมล์ ก่อนจะตกลงสู่มหาสมุทรอันเวิ้งว้างนอกชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย
ภารกิจค้นหาในเขตน่านน้ำ 60,000 ตารางกิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งเมืองเพิร์ธไปทางตะวันตกราว 1,600 กิโลเมตร ยังไม่พบชิ้นส่วนที่จะยืนยันการตกของเครื่องบินได้แม้แต่ชิ้นเดียว และอาจจะต้องยุติลงกลางคันในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากรองนายกรัฐมนตรีแดนจิงโจ้ออกมาแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กำลังมีการหารือระหว่างออสเตรเลีย มาเลเซีย และจีน ว่าสมควรปิดฉากการค้นหาที่ยืดเยื้อนี้หรือไม่
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย และรัฐบาลจีน ยังยืนกรานว่าเต็มใจที่จะสนับสนุนภารกิจค้นหา MH370 ต่อไป
ผู้โดยสาร 154 คนบนเที่ยวบิน MH370 เป็นพลเมืองจีน
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นที่เผยแพร่วานนี้ (8) ไม่ได้ระบุสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินสูญหาย และย้ำว่าจากประวัติทั้งด้านการเงิน สุขภาพ หรือชีวิตส่วนตัวของกัปตันและลูกเรือ ไม่มีอะไรที่น่าสงสัยว่าพวกเขาจะจงใจก่อวินาศกรรม