xs
xsm
sm
md
lg

UN ชี้ “ไอเอส” ทำลายซากเมืองโบราณ “นิมรูด” เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาแถลงประณามวานนี้ (6 มี.ค.) กรณีกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม( ไอเอส) ใช้รถแทร็กเตอร์และเครื่องมือหนักอื่นๆ ทำลายโบราณสถานยุคจักรวรรดิอัสซีเรียที่เมืองนิมรูด (Nimrud) ในอิรัก ชี้เข้าข่าย “อาชญากรรมสงคราม” พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำทั้งฝ่ายการเมืองและศาสนาในตะวันออกกลางร่วมกันติเตียน “การล้างผลาญที่ไม่อาจยอมรับได้” นี้

ถ้อยแถลงของ บัน ระบุว่า “การจงใจทำลายมรดกทางวัฒนธรรมที่เรามีร่วมกันถือว่าเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม และเป็นการโจมตีมนุษยชาติโดยรวม”

บัน ยังได้พบกับ อีรินา โบโกวา ผู้อำนวยการองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวานนี้ (6) เพื่อหารือเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโบราณสถานอายุราว 3,000 ปี

กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอิรัก แถลงว่า กลุ่มติดอาวุธไอเอสได้นำรถแทร็กเตอร์ขุดดินเข้าไปทำลายซากอารยธรรมโบราณในเมืองนิมรูดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5) หลังจากที่เคยทุบทำลายโบราณวัตถุล้ำค่าภายในพิพิธภัณฑ์เมืองโมซุล และวางเพลิงเผาห้องสมุดของพิพิธภัณฑ์มาแล้ว

เจ้าหน้าที่โบราณสถานของอิรัก ระบุว่า สัปดาห์ที่แล้วพวกไอเอสได้ขับรถบรรทุกเข้าไปในเขตโบราณสถานเมืองนิมรูดซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำไทกริส ห่างจากเมืองโมซุลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 30 กิโลเมตร

สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า สหรัฐฯ “เจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อเห็นโบราณวัตถุที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศาสนาในอิรักถูกทำลายลงไป รวมถึงการโจมตีที่เกิดขึ้นในเมืองนิมรูด”

เมืองโบราณแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นราวปี 1250 ก่อนคริสตกาล และอีก 400 ปีต่อมาได้กลายเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ซึ่งขณะนั้นถือเป็นรัฐที่มีอำนาจเข้มแข็งที่สุดในโลก มีอาณาเขตครอบคลุมดินแดนของอียิปต์ ตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน
ซากโบราณสถานในเมืองนิมรูดได้รับการยกย่องว่าเป็น “เพชรยอดมงกุฎ” แห่งอารยธรรมอัสซีเรีย ศิลปวัตถุชิ้นงามๆ ที่เหลือรอดผ่านกาลเวลาได้รับการขนย้ายออกจากพื้นที่เมื่อหลายปีก่อน รวมถึงรูปปั้นกระทิงมีปีกที่ปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ภายในพิพิธภัณฑ์กรุงลอนดอน ส่วนโบราณวัตถุที่เป็นอัญมณีและทองคำหลายร้อยชิ้นถูกส่งไปยังกรุงแบกแดด

นักโบราณคดีหลายคนเปรียบเทียบการทำลายมรดกทางประวัติศาสตร์ในอิรักกับการระเบิดพระพุทธรูปแห่งบามิยันเมื่อปี 2001 แต่ครั้งนี้ถือเป็นการจงใจกวาดล้างแบบไม่หยุดหย่อนและสร้างความสูญเสียอย่างกว้างขว้าง เพราะไอเอสไม่เพียงทำลายซากอารยธรรมโบราณ แต่ยังโจมตีศาสนสถานของชาวมุสลิมที่เป็นฝ่ายตรงข้ามด้วย



ภาพกลุ่มนักรบไอเอสกำลังทำลายโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์เมืองโมซุลของอิรัก

กำลังโหลดความคิดเห็น