เอเจนซีส์ - ครอบครัวของ สตีเวน ซอตลอฟฟ์ ผู้สื่อข่าวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอลที่ถูกสังหารโดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) วิงวอนหน่วยงานความมั่นคงให้นำตัวฆาตกรโหดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ หลังสื่อมวลชนอย่างวอชิงตันโพสต์และบีบีซีได้เปิดโปงตัวตนของ “ญิฮาดี จอห์น” นักรบผู้ปกปิดใบหน้าที่ปรากฏตัวในคลิปการสังหารหลายครั้งว่าเป็นหนุ่มโปรแกรมเมอร์จากลอนดอนที่มีชื่อว่า “โมฮัมเหม็ด เอ็มวาซี”
เอ็มวาซี วัย 26 ปี ซึ่งเกิดในคูเวตก่อนจะย้ายมาอยู่อังกฤษตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ลงมือสังหารตัวประกันชาวตะวันตกหลายคน รวมทั้งซอตลอฟฟ์ ด้วย
“ครอบครัวซอตลอฟฟ์ได้รับแจ้งเรื่องอัตลักษณ์ของญิฮาดี จอห์น แล้ว แต่นี่เป็นเพียงก้าวแรกบนเส้นทางที่ยาวไกลในการนำตัวเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” บารัก บาร์ฟี โฆษกของครอบครัวซอตลอฟฟ์ ระบุในคำแถลง
“ถ้า โมฮัมเหม็ด เอ็มวาซี คือฆาตกรที่สังหารสตีฟจริง ครอบครัวซอตลอฟฟ์ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหน่วยงานด้านข่าวกรองและการบังคับใช้กฎหมายของอเมริกาจะนำตัวเขามาลงโทษให้ได้”
“พวกเขาเฝ้ารอวันที่ จอห์น จะถูกตัดสินความผิดฐานฆาตกรรม สตีฟ... นี่แหละคือกระบวนการยุติธรรมของอเมริกา และด้วยเหตุนี้ประเทศของเราจึงอยู่เหนือพลังชั่วร้ายทั้งปวงที่ต้องการก่อกวนวิถีชีวิตของเรา”
นักรบไอเอสผู้นี้ได้รับฉายาว่า “ญิฮาดี จอห์น” เนื่องจากพูดสำเนียงอังกฤษเหมือน จอห์น เลนนอน นักร้องนำวง “เดอะบีตเทิลส์” และเชื่อกันว่าเขาเป็นผู้ลงมือสังหารผู้สื่อข่าวอเมริกัน 2 คน คือ เจมส์ โฟลีย์ และสตีเวน ซอตลอฟฟ์ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชาวอังกฤษ 2 คน เดวิด ไฮนส์ และอลัน เฮนนิง ตลอดจนเจ้าหน้าที่มนุษยธรรมชาวอเมริกันอีกคนที่ชื่อ อับดุล-ราห์มาน แคสซิก
เขายังเคยปรากฏตัวในคลิปวิดีโอพร้อม ฮารูนะ ยูกาวะ และเคนจิ โกโตะ ตัวประกันชาวญี่ปุ่น เพียงไม่นานก่อนที่ทั้งสองจะถูกบั่นคอ
อีเมลและเอกสารอื่นๆ ที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อวานนี้ (26) ระบุว่าหน่วยงานความมั่นคงอังกฤษ MI5 เริ่มติดตามความเคลื่อนไหวของเอ็มวาซี มาตั้งแต่ปี 2009 หลังจากที่เขาถูกห้ามเข้าประเทศแทนซาเนีย จนต่อมาในช่วงกลางปี 2013 เอ็มวาซีก็ได้ส่งข่าวบอกครอบครัวว่าเขาข้ามไปซีเรียแล้ว
ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว เอ็มวาซีเคยร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ MI5 ตามข่มขู่ ก่อนที่เขาจะหายตัวไป และกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2014 ในฐานะมือสังหารของไอเอส
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองอังกฤษประมาณการว่า มีบุคคลที่เติบโตในอังกฤษเดินทางไปร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรียแล้วราว 700 คน