เอเอฟพี - ญี่ปุ่นออกมาประกาศกร้าวในวันนี้ (24) ว่า “ไม่มีวันลดละ” ความพยายามหาหนทางช่วยชีวิต 2 ตัวประกันชาวญี่ปุ่นที่ถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) จับกุมตัวไว้ หลังจากที่กำหนดเส้นตายจ่ายค่าไถ่ตัวที่กลุ่มนี้เรียกร้องได้ผ่านเลยไปท่ามกลางความเงียบเชียบอันน่าหวั่นวิตก
เรื่องที่ว่า เคนจิ โกโต ผู้สื่อข่าวอิสระ และ ฮารุนะ ยูคาวะ ผู้รับเหมาสัญญาเอกชน ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่นั้นยังคงไม่มีใครทราบ หนึ่งวันหลังจากกำหนดเส้นตายที่จะรับรองการปล่อยตัวพวกเขาได้หมดลงแล้วโดยไม่มีสาสน์ใดมาจากกลุ่มผู้จับกุมตัวพวกเขา
กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์กลุ่มนี้ข่มขู่ว่าจะสังหารตัวประกันทั้งสองหากพวกเขาไม่ได้รับเงิน 200 ล้านดอลลาร์ภายใน 72 ชั่วโมง ซึ่งโตเกียวแปลความว่าหมายถึงเวลา 14.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.50 น.ตามเวลาประเทศไทย) ของเมื่อวันศุกร์ (23)
ยาสุฮิเดะ นากายามะ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกำลังเป็นผู้นำในการดำเนินความพยายามของญี่ปุ่นที่จะช่วยพลเมืองทั้งสองออกจากกรุงอัมมานของจอร์แดน บอกกับรอยเตอร์ว่า “เพื่อที่จะได้เห็นพวกเขาเป็นอิสระ นี่เป็นทางเดินที่ยากลำบากมากๆ แม้ว่าจะมีหลากหลายเส้นทางก็ตาม
“เรากำลังทุ่มความสนใจกับข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง เราจะไม่มีวันยอมแพ้ เราจะพาพวกเขากลับบ้าน”
ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่มีความคืบหน้าจะรายงาน” ภายหลังจัดการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจฉุกเฉินเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24)
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามได้เผยแพร่คลิปวิดีโอคลิปหนึ่งในสัปดาห์นี้ ซึ่งปรากฎภาพ โกโต และ ยูคาวะ กำลังนั่งคุกเข่าบนทะเลทราย และมีชายคนหนึ่งพูดข่มขู่ว่าจะประหารพวกเขาด้วยสำเนียงอังกฤษ
นักรบญิฮาดกลุ่มนี้ซึ่งปกครองดินแดนทั้งในอิรักละซีเรียภายใต้กฎหมายอิสลามแบบเคร่งครัด ได้ก่อเหตุฆาตกรรมตัวประกันชาวตะวันตกมาแล้ว 5 รายนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาขู่ฆ่าเชลยชาวญี่ปุ่น
เมื่อวานนี้ (23) จุนโกะ อิชิโดะ แม่ของโกโต ได้ออกร้องวิงวอนขอความปรานีให้กับลูกชายของเธอด้วยความสะเทือนใจ โดยเธอกล่าวว่า “ดิฉันพูดกับพวกคุณ คนของกลุ่มรัฐอิสลาม เคนจิไม่ใช่ศัตรูของพวกคุณ ได้โปรดปล่อยตัวเขา”
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นระบุว่า พวกเขายังกำลังพยายามรักษาช่องทางการติดต่อกับกลุ่มไอเอสไว้อยู่ ขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบข้อมูลหลายอย่างอย่างละเอียดถี่ถ้วน
เมื่อวานนี้ (23) ยูสุเกะ อิโซสะกิ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กล่าวว่า มีการติดต่อโดย “ทางอ้อม” กับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้อยู่บ้าง แต่ไม่มีการติดต่อทางตรงเลย
โตเกียวแทบไม่มีอิทธิพลทางการทูตในตะวันออกกลางเลย แต่สื่อท้องถิ่นระบุว่า อาเบะอาจพยายามใช้ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเขากับประธานาธิบดี เรเซฟ ตอยยิป เออร์โดแกน แห่งตุรกีเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน
หนังสือพิมพ์โยมิอุริ ชิมบุน ของแดนอาทิตย์อุทัย ระบุในวันนี้ (24) ว่า จอร์แดนยังได้พยายามที่จะติดต่อกับกุล่มไอเอสผ่านทางพวกผู้นำทางศาสนาที่มีอิทธิพลในกรุงอัมมาน
กุล่มไอเอสผูกการเรียกร้องค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์กับจำนวนเงินเดียวกันนี้ที่ อาเบะ กล่าวว่า เขาจะบริจาคช่วยเหลือประเทศที่กำลังรับมือกับการไหลทะลักของผู้ลี้ภัยที่หลบหนีการต้อสู้ระหว่างกลุ่มไอเอสและกองกำลังประจำการ
โตเกียวอยู่ภายใต้การกดดันจากอังกฤษและสหรัฐฯ ให้ยืนกรานเรื่องการจ่ายค่าไถ่ เนื่องจากทั้งสองประเทศมีนโยบายไม่จ่ายค่าไถ่ตัวประกันไม่ว่ากรณีใดๆ
เมื่อวานนี้ (23) สถานีวิทยุและโทรทัศน์ เอ็นเอชเค รายงานโดยอ้างจากคำพูดของเจ้าหน้าที่ “ประชาสัมพันธ์” จากกลุ่มไอเอสที่อธิบายว่าญี่ปุ่นเป็น “พวกนอกรีต” ที่เข้ามาสนับสนุนความพยายามหยุดยั้งพวกเขา
“ถ้อยแถลงจะมีออกมาในภายหลังสักเวลาใดเวลาหนึ่ง” เขากล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม