เอเจนซี - ครอบครัวเมอร์ฟีย์ ทิ้งบ้านออกไปฉลองครบรอบวันหมั้นหมาย ในยามที่แสงแดดอ่อนๆ ในฤดูหนาวส่องผ่านกระปุกช็อกโกแลตทาขนมปังใบหนึ่ง ซึ่งวางอยู่ริมขอบหน้าต่าง
หมาน้อยแสนรักของบ้านเมอร์ฟีย์มีอันต้องจบชีวิตลง เมื่อเปลวเพลิงที่เกิดขึ้นจากกระปุกช็อกโกแลต “นูเทลลา” ลามเลียทั่วชั้นล่างของบ้านหลังนี้
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ไฟนรกที่เผาทำลายหลังคาและสร้างความเสียหายให้แก่ชั้นหนึ่งอย่างรุนแรงเริ่มปะทุขึ้น เมื่อแสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาวส่องผ่านกระปุกช็อกโกแลตทาขนมปัง ที่เจ้าของบ้านวางทิ้งไว้บนขอบหน้าต่าง จนกระปุกแก้วใบนี้กลายเป็นจุดรวมแสงชั้นดี ที่จุดประกายให้เกิดเพลิงลุกไหม้
เก็ตเวสต์ลอนดอนรายงานว่า เดคแลน เมอร์ฟีย์ ได้ออกโรงเตือนคนอื่นๆ ให้เฝ้าระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับบ้านของเขาในบ่ายวันอาทิตย์ (22) ขณะที่พาศรีภรรยาและลูกๆ อีก 2 คนวัย 7 ขวบ และ 3 ขวบออกไปฉลองครบรอบวันหมั้น
โชคร้ายที่เจ้า “ชิลลิ” สุนัขแจ็กรัสเซลวัย 9 ปี ที่ครอบครัวนี้เลี้ยงไว้ติดอยู่ภายในบ้าน และเสียชีวิตเพราะสำลักเอาควันไฟเข้าไป
“เราทุกคนใจสลายกับการจากไปของเจ้าชิลลิ หมอบอกพวกเราว่า มันจะอยู่ได้อีกแค่ปีเดียวเท่านั้น ก่อนที่เราจะย้ายเข้าบ้านหลังนี้” เดคแลน ซึ่งประกอบอาชีพหัวหน้างานไฟฟ้าวัย 41 ปีรำพึงถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก
“ผมอยากให้คนอื่นๆ ไหวตัวป้องกันภัยได้ทัน และรู้จักเก็บภาชนะแก้วไว้ให้ห่างจากหน้าต่าง และไม่ให้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องเจอเรื่องน่าเศร้าแบบนี้”
ในเวลานั้น พนักงานผจญเพลิง 21 คน พร้อมกับขบวนรถดับเพลิง 4 คันระดมกำลังกันควบคุมไฟที่ลุกไหม้บนถนนฟีลดิง ในเมืองทวิกเคนแนม
อัคคีภัยระลอกนี้ปะทุขึ้น หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (19) แสงแดดตกกระทบโต๊ะกระจกที่บ้านของ มิเชล โมน นักธุรกิจใหญ่เจ้าของกิจการชุดชั้นใน ที่ย่านแมย์แฟร์ ใจกลางกรุงลอนดอน จนเป็นเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้ถุงถั่วบนโต๊ะ
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนั้นได้กระตุ้นให้หน่วยดับเพลิงลอนดอนต้องออกประกาศเตือน โดยพวกเขาเปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีมานี้ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากแสงอาทิตย์แล้ว 125 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนี้เพียงฤดูเดียวก็เกิดเพลิงไหม้ด้วยสาเหตุนี้ถึง 5 ครั้ง
ชาร์ลีย์ พักส์ลีย์ จากหน่วยสืบสวนอัคคีภัย ประจำหน่วยดับเพลิงลอนดอนชี้ว่า “ไฟไหม้ประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องที่นานๆ ครั้งจะเกิดขึ้นทีอย่างที่คุณคิด”
“ผมเคยเห็นมาแล้วทุกอย่าง นับตั้งแต่ไฟไหม้ที่เกิดจากแสงแดดกระทบลูกบิดแก้วประกายวิบวับ ไปจนถึงลูกแก้วคริสตัล”
“ของตกแต่งประเภทคริสตัลและแก้ว ตลอดจนสิ่งของจำพวกโต๊ะกระจกนั้นควรถูกเก็บไว้ไม่ให้สัมผัสแสงโดยตรง เราไม่ได้แนะนำให้ประชาชนดับไฟด้วยตนเอง แต่โชคยังดีที่คุณโมน ไม่เป็นอะไรไปเสียก่อน”