รอยเตอร์ - พวกนักรบรัฐอิสลามลอบเข้ามายังตุรกีและกำลังวางแผนโจมตีสถานทูตชาติต่างๆ ทั้งในกรุงอังการา และอิสตันบูล สื่อมวลชนเติร์กรายงานโดยอ้างคำกล่าวของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (เอ็มไอที) เมื่อวันพฤหัสบดี (19 ก.พ.)
หนังสือพิมพ์เฮอริเยตรายงานโดยอ้างบันทึกภายในของเอ็มไอที ระบุว่ามีนักรบราว 3,000 คนจากกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งในซีเรีย และอิรัก กำลังหาทางเข้ามายังตุรกีผ่านแนวชายแดนทางใต้ของประเทศ หลังล้มเหลวในการยึดโคบานี เมืองชาวเคิร์ดของซีเรีย
เอกสารบันทึกภายในที่เฮอริเยตนำมากล่าวอ้าง ระบุด้วยว่า นักรบบางส่วนในนั้นรวมถึงเหล่าผู้บัญชาการระดับอาวุโสได้เล็ดลอดเข้ามายังตุรกีแล้วและพักอยู่ตามเซฟเฮาส์ต่างๆ ทั้งนี้แม้ในเอกสารไม่ได้ชี้ชัดถึงจำนวนนักรบที่ข้ามชายแดนเข้ามา แต่บอกว่าผู้บัญชาการระดับอาวุโสเหล่านั้นอยู่ระหว่างวางแผนโจมตี
“เหล่าผู้เชี่ยวชาญของนักรบในด้านโจมตีด้วยระเบิดและระเบิดฆ่าตัวตายกำลังวางแผนโจมตีสถานทูตของกองกำลังพันธมิตรนานาชาติซึ่งเข้าแทรกแซงในซีเรีย ทั้งที่อิสตันบูล และอังการา” เอกสารระบุ
เฮอริเยตระบุด้วยว่า มีนักรบสัญชาติซีเรียและปาเลสไตน์บางส่วนกำลังวางแผนข้ามชายแดนเข้าไปยังบัลแกเรียเช่นกัน เพื่อดำเนินการโจมตีในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม ตำรวจปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้ที่อ้างเอกสารบันทึกภายในของเอ็มไอที ส่วนทางเอ็มไอทียังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว
กองกำลังชาวเคิร์ดของซีเรีย ผลักดันนักรบของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกจากเมืองโคบานีเมื่อเดือนที่แล้ว นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของพวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้ที่บึกยึดครอบครองพื้นที่คร่อมดินแดนซีเรียและอิรัก กินบริเวณกว้างกว่า 50,000 ตารางกิโลเมตร
ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างดุเดือดของพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ที่ในนั้นประกอบด้วยเหล่าประเทศยุโรปและอาหรับ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนชัยชนะของกองกำลังชาวเคิร์ด
ตุรกีถูกโจมตีด้วยระเบิดหลายระลอกในปีนี้ ล่าสุดเกิดขึ้นที่เมืองสุรุค ในจังหวัดซานลิเออร์ฟา ตามแนวชายแดนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13 ก.พ.) อย่างไรก็ตามยังไม่มีกลุ่มไหนออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่มีข้อบ่งชี้ว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในซีเรีย