เอเอฟพี – องค์กรปกครองสูงสุดด้านศาสนาอิสลามในอินโดนีเซียออกมาขู่คัดค้านการจำหน่ายถุงยางอนามัยในแดนอิเหนา วานนี้(13 ก.พ.) หลังมีกระแสข่าวว่าผู้ค้าบางรายนำช็อกโกแลตแท่งมาขายควบถุงยางอนามัยเพื่อต้อนรับวันวาเลนไทน์
ภาพช็อกโกแลตแท่งที่ผูกขายเป็นแพ็กคู่กับถุงยางอนามัยถูกตีแผ่ลงหนังสือพิมพ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และมีการแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีพลเมืองมุสลิมมากที่สุดในโลก
มารุฟ อามีน ประธาน “สภาอุละมา” ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดด้านศาสนาอิสลามในอินโดนีเซีย ระบุว่าทางองค์กรกำลังตรวจสอบที่มาที่ไปของภาพ พร้อมยืนยันว่าสภาฯ ไม่เห็นด้วยกับการจำหน่ายถุงยางอนามัยโดยเสรี “เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้คนมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน”
“การจำหน่ายถุงยางอนามัยคือสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่ปัญหาการค้าประเวณี และการมีเพศสัมพันธ์ไม่เลือก... ทางสภาฯ มีจุดยืนต่อต้านการใช้ถุงยางอนามัยในสังคมของเรามานานแล้ว” เขาให้สัมภาษณ์
ทั้งนี้ หากพบว่ามีผู้จำหน่ายช็อกโกแลตควบถุงยางอนามัยจริง “ก็มีความเป็นไปได้สูงที่สภาอุละมาจะออกคำฟัตวา (คำตัดสินทางศาสนา) ห้ามจำหน่ายถุงยางอนามัยโดยเสรีในประเทศนี้” มารุฟ กล่าว
รายงานระบุว่า ร้านค้าหลายแห่งในเมืองมาลัง (Malang) จ.ชวาตะวันออก ได้นำช็อกโกแลตพร้อมถุงยางออกมาวางจำหน่ายก่อนถึงวันวาเลนไทน์ ทำให้ฝ่ายบริหารเมืองอื่นๆ เร่งส่งเจ้าหน้าที่ตระเวนตรวจสอบตามร้านค้าว่ามีการจำหน่ายสินค้าในลักษณะเดียวกันหรือไม่
ผู้นำศาสนาอิสลามทั่วอินโดนีเซียเตือนชาวมุสลิมไม่ให้ร่วมเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์ เนื่องจากมองว่าเป็นค่านิยมแบบตะวันตกที่ส่งเสริมการมีเซ็กซ์ แอลกอฮอล์ และยาเสพติด
แม้พลเมือง 250 ล้านคนของอินโดนีเซียจะเป็นชาวมุสลิมถึง 90% แต่ส่วนใหญ่ยึดแนวทางอิสลามสายกลางที่ไม่เคร่งครัดสุดโต่ง