ผอ.ศูนย์ปัญหาเอดส์ชี้ชัด นร. ติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพียบ อาชีวะครึ่งหนึ่งมีเซ็กซ์แล้ว ขณะที่เด็กมัธยมมีเซ็กซ์ 1 ใน 4 ระบุถุงยางอนามัยป้องกันได้ดีสุด สมควรตั้งตู้ถุงยางในโรงเรียน โดยมีครูควบคุม แต่อยู่ที่ความสมัครใจของโรงเรียน กะเทาะปัญหาสอนเพศศึกษาแบบลูบหน้า ไม่จริงจัง ทำให้ปัญหาไม่ลดลง
นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการปัญหาเอดส์แห่งชาติ กล่าวว่า จากสถิติผู้เข้ารับบริการสาธารณสุข พบผู้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รายใหม่กว่าปีละ 10,000 ราย ทั้งเอชไอวี หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เริม และ หูด โดยเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ถึง 8,000 ราย ซึ่งร้อยละ 40 พบว่าเป็นเยาวชนวัยเรียน นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มอายุน้อยกว่า 20 ปี อีกกว่าปีละ 2 แสนราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนว่าเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนยังเป็นปัญหา ซึ่งตามหลักการแล้วถุงยางอนามัยถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ดีที่สุด ซึ่งการติดตั้งตู้ซื้อถุงยางอนามัยภายในโรงเรียนไม่ได้มายความว่าเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร แต่ถือว่าจำเป็นที่เด็กจะต้องได้รับการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่แค่การเรียนรู้ทางทฤษฎีอย่างเดียว แต่เข้าไม่ถึงอุปกรณ์ป้องกันโรค
นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า การติดตั้งตู้ซื้อถุงยางอนามัยในโรงเรียนอาชีวะ ก็พบว่า ได้ผลดี ลดปัญหาการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ลงได้ รวมถึงปัญหาการท้องไม่พร้อมด้วย เพราะอย่างที่ทราบคือครึ่งหนึ่งของนักเรียนอาชีวะมีเพศสัมพันธ์แล้ว ขณะที่นักเรียนสายสามัญ 1 ใน 4 ก็มีเพศสัมพันธ์แล้วเช่นกัน จึงเห็นสมควรที่จะมีการติดตั้งตู้ซื้อถุงยางอนามัยในโรงเรียน เพราะมีครูที่สามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เยาวชนได้ดีกว่าความรู้จากแหล่งอื่น เพราะไม่อยากให้เด็กมาศึกษาความรู้เรื่องนี้ภายหลังที่เกิดจากปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ อยู่ที่ความสมัครใจของโรงเรียน
เมื่อถามถึงกรณีการเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียน ซึ่งมีมานาน แต่กลับไม่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า เป็นเพราะไม่ได้ทำอย่างจริงจัง เพียงขึ้นชื่อว่าสอน แต่ที่จริงเป็นการเรียนสุขศึกษาเท่านั้น ซึ่งในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนที่สอนเพศศึกษาอย่างจริงจังแล้วปัญหาท้องไม่พร้อมเพิ่มขึ้น มีเพียงประเทศที่ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ยังไม่สามารถลดปัญหาลงได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการปัญหาเอดส์แห่งชาติ กล่าวว่า จากสถิติผู้เข้ารับบริการสาธารณสุข พบผู้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รายใหม่กว่าปีละ 10,000 ราย ทั้งเอชไอวี หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เริม และ หูด โดยเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ถึง 8,000 ราย ซึ่งร้อยละ 40 พบว่าเป็นเยาวชนวัยเรียน นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มอายุน้อยกว่า 20 ปี อีกกว่าปีละ 2 แสนราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนว่าเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนยังเป็นปัญหา ซึ่งตามหลักการแล้วถุงยางอนามัยถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ดีที่สุด ซึ่งการติดตั้งตู้ซื้อถุงยางอนามัยภายในโรงเรียนไม่ได้มายความว่าเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร แต่ถือว่าจำเป็นที่เด็กจะต้องได้รับการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่แค่การเรียนรู้ทางทฤษฎีอย่างเดียว แต่เข้าไม่ถึงอุปกรณ์ป้องกันโรค
นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า การติดตั้งตู้ซื้อถุงยางอนามัยในโรงเรียนอาชีวะ ก็พบว่า ได้ผลดี ลดปัญหาการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ลงได้ รวมถึงปัญหาการท้องไม่พร้อมด้วย เพราะอย่างที่ทราบคือครึ่งหนึ่งของนักเรียนอาชีวะมีเพศสัมพันธ์แล้ว ขณะที่นักเรียนสายสามัญ 1 ใน 4 ก็มีเพศสัมพันธ์แล้วเช่นกัน จึงเห็นสมควรที่จะมีการติดตั้งตู้ซื้อถุงยางอนามัยในโรงเรียน เพราะมีครูที่สามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เยาวชนได้ดีกว่าความรู้จากแหล่งอื่น เพราะไม่อยากให้เด็กมาศึกษาความรู้เรื่องนี้ภายหลังที่เกิดจากปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ อยู่ที่ความสมัครใจของโรงเรียน
เมื่อถามถึงกรณีการเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียน ซึ่งมีมานาน แต่กลับไม่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า เป็นเพราะไม่ได้ทำอย่างจริงจัง เพียงขึ้นชื่อว่าสอน แต่ที่จริงเป็นการเรียนสุขศึกษาเท่านั้น ซึ่งในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนที่สอนเพศศึกษาอย่างจริงจังแล้วปัญหาท้องไม่พร้อมเพิ่มขึ้น มีเพียงประเทศที่ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ยังไม่สามารถลดปัญหาลงได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
