เอเอฟพี – ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส เผยวานนี้(12 ก.พ.) ว่า เงื่อนไขต่างๆ “ยังไม่เอื้อ” ต่อการเดินหน้าส่งมอบเรือรบชั้นมิสทราล 2 ลำให้แก่รัสเซีย แม้ว่าประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะให้การสนับสนุนแผนสันติภาพในยูเครนจนมีความคืบหน้าก็ตาม
ออลลองด์ สั่งระงับสัญญาซื้อขายเรือรบมูลค่า 1,200 ล้านยูโรในปีที่แล้วท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งในยูเครนตะวันออก เนื่องจากเกรงว่าเรือรบทั้ง 2 ลำจะยิ่งเสริมศักยภาพกองทัพรัสเซียให้แข็งแกร่งขึ้น และทำให้ปารีสต้องผิดใจกับชาติพันธมิตร
ภายหลังการเจรจาที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุส เมื่อวานนี้(12) นำมาซึ่งข้อตกลงหยุดยิงและถอนอาวุธหนักออกจากแนวรบระหว่างกองทัพยูเครนและกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ออลลองด์ จึงได้ให้สัมภาษณ์ว่า หากข้อตกลงถูกนำไปปฏิบัติอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ สถานการณ์ก็อาจเปลี่ยนไป
“ผมหวังว่ามันอาจจะเป็นไปได้สักวันหนึ่ง”ประธานาธิบดีฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมซัมมิตผู้นำสหภาพยุโรปซึ่งมีแผนสันติภาพยูเครนเป็นวาระสำคัญ
“แน่นอนว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สหภาพยุโรปอาจผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร” ที่มีต่อรัสเซียจากกรณีการแทรกแซงยูเครน
“ฝรั่งเศสจะมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา” ออลลองด์ ระบุ
รัฐบาลปารีสเลื่อนการจัดส่งเรือรบ “วลาดิวอสต็อก” ที่มีกำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และยังขอเลื่อนออกไปอีก “อย่างไม่มีกำหนด” ซึ่งทำให้มอสโกออกมาขู่เรียกร้องค่าชดเชยก้อนใหญ่หากมีการยกเลิกสัญญา
ทหารเรือรัสเซียซึ่งถูกส่งไปฝึกการใช้งานเรือรบชั้นมิสทราล ได้เดินทางออกจากฝรั่งเศสเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เรือรบชั้นมิสทราลสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้ 16 ลำ, เรือระบายพล (landing craft) 4 ลำ, รถถัง 13 คัน และกำลังพลอีกมากกว่า 400 นาย