เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - รายงานรัฐสภาอังกฤษที่เผยแพร่ในวันพุธ(23)พบว่า อังกฤษยังคงส่งออกอาวุธสงครามไปยังรัสเซีย โดยรายงานฉบับนี้ถูกเปิดเผยไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน กดดันฝรั่งเศสให้ยกเลิกการขายเรือรบมูลค่า 1.2 พันล้านยูโรให้กับรัสเซีย ซึ่งเป็นผลทำให้ฝรั่งเศส ถึงกับเต้น เรียกคาเมรอนว่า “ลิ้น 2แฉก” และยืนยันที่จะทำการส่งมอบตามกำหนดแน่นอน
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมรอน กดดันให้ให้สหภาพยุโรปแบนการขายอาวุธให้รัสเซีย โดยกล่าวหาว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ติดอาวุธและทำการฝึกให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก และได้ให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์(21)ว่า อังกฤษได้หยุดการขายอาวุธสงครามกับรัสเซียแล้ว
ทางรัฐบาลอังกฤษให้คำมั่นที่จะยกเลิกการขายอาวุธให้กับรัสเซียในเดือนมีนาคมก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม รายงานรัฐสภาอังกฤษที่ได้รับการเผยแพร่วันนี้(23)พบว่า ยังคงมีใบอนุญาตถึง 251 ใบที่ยังมีผลบังคับใช้อนุญาตให้บริษัทอังกฤษสามารถขายสินค้าในความควบคุมให้กับรัสเซียมูลค่าอย่างน้อย 132 ล้านปอนด์
ทั้งนี้พบว่ามีใบอนุญาตให้จำหน่ายปืนไรเฟิลติดกล้อง อาวุธเบา ชุดเกราะลำตัว อุปกรณ์การสื่อสารทางทหาร อุปกรณ์กล้องส่องในเวลากลางคืน และอุปกรณ์สำหรับทำแผนที่ นอกจากนี้ มีเพียงใบอนุญาตแค่ 31 ใบที่ถูกแขวนหรือยกเลิกไป ในขณะที่ใบอนุญาตอื่นอีก 3 ใบไม่สามารถใช้ได้เนื่องจาก ปลายทางที่ระบุที่รับของมีปัญหา
ล่าสุดคาเมรอนงัดไม้แข็งเล่นงานปูติน ผู้นำรัสเซียที่ในขณะนี้ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำหลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สถูกยิงตกในวันพฤหัสบดี(17)ที่ผ่านมาในยูเครนตะวันออก ผลทำให้มีผู้เสียชีวิตยกลำจำนวน 298 คน รวมไปถึงเด็กกว่า 80 คน และสัตว์เลี้ยงที่ขนส่งมาเที่ยวเดียวกัน
รัสเซียนอกจากต้องเผชิญหน้ากับการถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากปัญหาวิกฤตยูเครนที่ปูตินได้ผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว และล่าสุดยังต้องเผชิญหน้ากับการประกาศคว่ำบาตรอย่างหนักหน่วงจากปัญหากลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครน และปัญหาMH17
ทั้งวอชิงตันและลอนดอนต่างตั้งคำถามเหตุใดฝรั่งเศสยังคงยืนยันที่จะขายเรือรบจำนวน 2 ลำมูลค่า1.2 พันล้านให้กับรัสเซีย โดยคาเมรอนได้บริภาษในวันจันทร์(21)ว่า “เป็นความคิดที่โง่เง่า” สำหรับฝรั่งเศสที่จะสนับสนุนอาวุธยุทธภัณฑ์ให้กับรัสเซีย และยังกล่าวต่อว่าไม่ควรมีประเทศใดในยุโรปขายอาวุธสงครามให้รัสเซีย ทำให้ฝรั่งเศสต้องตอบโต้ว่า “ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะยังคงเดินหน้าทำข้อตกลงนี้ให้ลุล่วง และจะส่งมอบแก่รัสเซียแน่นอน ซึ่งการปะทะคารมนี้มีต้นตอจากพวกลิ้น 2แฉก ที่จะเห็นได้ว่ามีโอลิการ์ช (Oligarch) เศรษฐีรัสเซียกระทบใหล่อยู่ในกรุงลอนดอนจำนวนมากเพียงใด เดวิด คาเมรอน ควรเริ่มต้นทำความสะอาดสวนหลังบ้านของตัวเองได้แล้ว” ณอน-คริสโตเฟ แคมบาเดลิส (Jean-Christophe Cambadelis) หัวหน้าพรรครัฐบาลโซเชียลลิสต์กล่าว
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยของรายงานรัฐสภาอังกฤษจากคณกรรมาธิการด้านควบคุมการส่งออกอาวุธดูเหมือนจะขัดแย้งในสิ่งที่รัฐบาลอังกฤษแถลง นอกจากนี้ทางคณะกรรมการได้วิจารณ์ถึงใบอนุญาตค้าสารเคมีกับซีเรียที่อาจเกิดปัญหาทำให้ซีเรียสามารถผลิตอาวุธเคมีได้
โฆษกรัฐบาลอังกฤษปฎิเสธว่าไม่มีการผ่อนคลายนโยบายการจำกัดอาวุธแต่อย่างใด
ด้านสำนักข่าวอิตาร์ทาสส์ สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้(22)ว่า เบอร์นาร์ด ออเกอร์ (Bernard Auger) นักวิเคราะห์ด้านการทหารชาวเบลเยียมได้ให้ความเห็นว่า หากฝรั่งเศสไม่ยอมส่งมอบตามข้อตกลงที่ทำไว้กับรัสเซีย ผลเสียจะตกอยู่กับฝรั่งเศสมากกว่ารัสเซียแน่นอน ทั้งจากมูลค่าธุรกิจ1.2 พันล้านยูโร รวมถึงการถูกปรับอีก 1 พันล้านยูโรหากเลิกสัญญา
ทั้งนี้แหล่งข่าวในสหภาพยุโรปเปิดเผยกับอิตาร์ ทาสส์ว่า ทางอียูมีแผนที่จะแบนการค้าอาวุธกับรัสเซียในสัญญาครั้งใหม่ แต่สัญญาที่เดิมอยู่ก่อนหน้านี้จะไม่ได้รับผลกระทบ
อิตาร์ ทาสส์รายงานต่อว่า ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ เปิดเผยว่า สัญญายังคงดำเนินไปตามปกติ สัญญาซื้อเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้นมิสทราลจำนวน 2 ลำถูกทำขึ้นในปี 2011 นั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข และจะบรรลุข้อตกลงตามสัญญาในเดือนตุลาคมนี้
ในรายละเอียดสัญญาระบุชัดว่า เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้นมิสทราลที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถแล่นในระดับอัลติจูดเหนือ และทะเลที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งได้ นอกจากนี้ยังต้องถูกสร้างโดยฝรั่งเศส โดยเรือแต่ละลำจะใช้เวลาสร้างนาน 36 เดือน ซึ่งเรือลำแรก “เดอะ วลาดิวอสตอก” (The Vladivostok) มีกำหนดที่จะเดินทางจากฝรั่งเศสในเดือนธันวาคม 2014 มายังรัสเซีย และจะติดอาวุธหนักและเบาสัญชาติรัสเซียที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และหลังจากนั้นจะมีการฝึกลูกเรือประจำ และจะจัดส่งไปประจำกับฝูงเรือแปซิฟิกต่อไป
ส่วนเรือลำที่สอง “เดอะ เซวาสโตโปล (The Sevastopo) มีกำหนดจะเดินทางมาถึงกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในเดือนพฤศจิกายน2015 และจะร่วมฝูงเรือแปซิฟิกในครึ่งปีหลัง 2016 ต่อไป และฝรั่งเศสจะรับทำหน้าที่ฝึกสอนลูกเรือแต่ละลำจำนวน 177 คน รวมถึงครูฝึกอีก 60 คน ซึ่งการฝึกในเฟสแรกได้เริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเฟสที่สองได้เริ่มในเดือนมิถุนายนที่ Saint-Nazaire ฝรั่งเศสทั้งบนบกและบนเรือเดอะ วลาดิวอสตอก ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการฝึกได้รวมอยู่ในข้อตกลงแล้ว
และนอกจากเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้นมิสทราลทั้ง 2 ลำนี้ รัสเซียยังได้สั่งซื้อระบบการสื่อสารและควบคุมการโจมตีจากฝรั่งเศสอีกด้วย