เอเจนซีส์ - ผู้รับเหมาและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ผู้ต้องสงสัยสังหารโหดชาวอังกฤษวัย 45 ปี ที่อยู่ในระหว่างการหลบหนี ได้เปิดใจผ่านทนายกับหนังสือพิมพ์เดอะ มิร์เรอร์ สื่ออังกฤษ ในวันเสาร์ (7 ก.พ.) ว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้สังหาร ลักษมี มะโนชาติ หรือปุ๊ก อายุ 31 ปี ทำงานอยู่ร้านเรนโบว์ 4 โกโก้บาร์ ย่านนานา แต่ยอมรับว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตจริง และได้นำผู้ตายออกนอกร้านเพื่อพาไปหาความสำราญ และลุกเกอร์ที่กำลังหลบหนีในขณะนี้ ยืนยันผ่านทนายจะเดินทางเข้ามามอบตัวเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไป
หลังจากเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ถึงการพบศพเปลือยปริศนา ที่ถูกสังหารและนำไปยัดใส่กระเป๋าและจับถ่วงในแม่น้ำแม่กลองเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดผู้ต้องสงสัยชาวอังกฤษที่ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการหลบหนีจากการตามล่าของตำรวจไทย เชน ลุกเกอร์ (Shane Looker) วัย 45 ปีได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทนายความกับสื่ออังกฤษ เดอะ มิร์เรอร์ในวันเสาร์ (7) อ้างตัวว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ถึงแม้ตอนนี้ลุกเกอร์จะอยู่ในระหว่างการหลบหนีการตามล่าของตำรวจไทย
ในการสอบสวนคดี กล้องวงจรปิดชี้ว่าลุกเกอร์ได้เดินทางออกจากร้านบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิทซอย 4 พร้อมกับผู้เสียชีวิต ลักษมี มะโนชาติ หรือปุ๊ก อายุ 31 ปี เวลา 23.00น.ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2014 และเป็นครั้งสุดท้ายที่มีการพบเห็นเธอในขณะที่มีชีวิต และเดอะมิร์เรอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ในอีก 1 สัปดาห์ถัดมา ปุ๊ก สาวบาร์ กลับถูกพบเป็นศพเปลือย โดนสังหารโหดยัดในกระเป๋าเดินทางยี่ห้อ Pology สีแดง พร้อมกับมีเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าส้นสูง และกระเป๋าเงินอยู่ภายใน ถูกถ่วงด้วยหิน และต่อมาชาวบ้านใน จ.กาญจนบุรี พบกระเป๋าใบนี้ลอยอยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง บริเวณหลังสหกรณ์การเกษตร หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2014
ล่าสุดลุกเกอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษผ่านทนายความ ยอมรับว่าเขาได้จ่ายเงินให้กับทางร้านที่ลักษมีทำงานอยู่เพื่อสามารถนำเธอออกนอกร้านไปได้เพื่อสามารถ “ใช้เวลาเพื่ออยู่ร่วมกับเธอ” แต่ลุกเกอร์ยืนยันว่าเขาไม่ได้ลงมือสังหารสาวศรีสะเกษที่เป็นเสาหลักของครอบครัวผู้นี้แต่อย่างใด
แต่ทว่าจากรายงานข่าวของสื่อไทยชี้ว่า ผลการตรวจ DNA ที่เก็บได้จากที่ตัดเล็บ แปรงสีฟัน และใต้เล็บมือของผู้เสียชีวิต มัดตัวลุกเกอร์อย่างดิ้นไม่หลุด และตำรวจไทยได้ประสานงานกับตำรวจสากลเพื่อติดตามลุกเกอร์เพื่อเดินทางกลับมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งในขณะนี้แหล่งกบดานของผู้ต้องสงสัยชาวอังกฤษ วัย 45 ปีที่มีอาชีพรับเหมาและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยังไม่แน่ชัด แต่ทว่าในสัปดาห์ทีผ่านมาเขาได้กล่าวผ่านทนายความของตนเอง ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง
โดยพบว่าถึงแม้ลุกเกอร์อยู่ในระหว่างการเตรียมตัวเพื่อกลับเข้าไทยเพื่อมอบตัวต่อตำรวจ แต่ทว่าผู้ต้องสงสัยเกรงว่าการที่จะถูกจำคุกในไทยทำให้เขาสูญเสียโอกาสปกป้องตนเองอย่างเหมาะสมตามกระบวนการยุติธรรมของไทย และสื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า หากศาลไทยพิจารณาแล้วว่าผู้รับเหมาและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชาวอังกฤษผู้นี้ผิดจริง ลุกเกอร์จะต้องได้รับโทษจนถึงขั้นประหารชีวิต
เดอะ มิรเรอร์ รายงานว่า ลุกเกอร์ที่มาจากสโต๊กยอมรับว่าได้นำลักษมีออกไปจากร้านเรนโบว์ 4 โกโก้บาร์ ที่เธอทำงานอยู่จริงซึ่งบาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ย่านนานา แหล่งท่องเที่ยวยามกลางคืนที่มีการประกอบการเกี่ยวกับการค้าประเวณีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยลุกเกอร์กล่าวกับสื่ออังกฤษว่า “ผมยอมรับว่ารู้จักเธอ ผมยอมรับว่าได้ใช้ช่วงเวลากับเธอ ซึ่งลักษมีเป็นสาวทำงานในบาร์ที่ผมเคยรู้จักก่อนหน้านี้ และผมยอมรับว่าได้จ่ายเงินให้ทางร้าน (เพื่อสามารถจะนำลักษมีออกนอกร้านได้) และไม่มีทางเลยที่ผมจะสามารถทำร้ายผู้หญิงคนไหนได้ อย่าว่าแต่ฆ่าเลย และนี่เป็นคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ที่ผมขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสิ้นเชิง และผมกำลังเดินหน้ารอเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยผมได้รับคำแนะนำทางกฎหมายที่ให้เดินทางเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้ตามกระบวนการตามยุติธรรมไทยต่อไป” ลุกเกอร์กล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนไทยเชื่อว่า ผู้ต้องสงสัยวัย 45 ปีผู้นี้ใช้รถไฟสายใต้หลบหนีออกนอกประเทศเข้ามาเลเซีย ที่มีพรมแดนติดทางใต้ของไทย เพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะไอบิซา (Ibiza) สเปน ที่ชายผู้นี้มีที่พักอยู่ที่นั่น โดยเดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ (8) ว่า ไทยบล็อกเกอร์ได้รายงานว่า มีการเข้าใจว่าลุกเกอร์ได้เดินทางจากมาเลเซียไปยังเกาะไอบิซา และได้อาศัยอยู่ที่นั่นในช่วงฤดูร้อนของยุโรปเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งผู้ต้องสงสัยชาวอังกฤษมีหุ้นโรงแรมอยู่บนเกาะแห่งนี้ และไม่คาดว่าลุกเกอร์จะเดินทางกลับเข้าไปในอังกฤษแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของตำรวจออังกฤษ โฆษกตำรวจหญิงจากสแตฟฟอร์ดเชอร์ อังกฤษ เปิดเผยว่า “เรารับรู้ถึงความสนใจของต่างชาติต่อตัวเชน ลุกเกอร์ผ่านทางสื่อ แต่ในจุดนี้ทางอังกฤษยังไม่มีเบาะแสถึงการอยู่ในอังกฤษ หรือการเดินทางกลับเข้ามาอังกฤษของเขา”
ด้าน เจสัน ค็อกห์แลน (Jason Coghlan) ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำสำนักงานกฎหมาย JaCogLaw legal service ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ใกล้บ้านของลุกเกอร์ในกรุงเทพฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sunday People ยอมรับว่า “เราได้รับการติดต่อจาก เชน ลุกเกอร์ ซึ่งตัวเขายืนยันกับทางเราชัดเจนว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้หญิงไทยผู้นี้ ซึ่งทางเราได้แนะนำเขาไปให้เดินทางมามอบตัวกับตำรวจไทยเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ แต่จากความกังวลของลุกเกอร์ และทางเราเห็นตรงกันว่า การมอบตัวนี้ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่จะไม่กระทบต่อสิทธิทางกฎหมายในการสุ้คดีที่มีความผิดอุกฉกรรจ์ถึงขั้นประหารชีวิตนี้” ค็อกห์แลนกล่าว
และค็อกห์แลนเสริมต่อว่า “ผล DNA ที่ปรากฏตามข่าวนั้นไม่ทำให้ลุกเกอร์ตกเป็นผู้ต้องหา ที่ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานปรากฏว่าชายผู้นี้อยู่กับผู้เสียชีวิตชั่วขณะก่อนที่เธอจะถูกพบเป็นศพก็ตาม อย่างไรก็ตาม ถือเป็นความไม่ยุติธรรมอย่างที่สุดหากใครสักคนต้องปกป้องตนเองจากข้อกล่าวหาในขณะที่ถูกจำคุกในไทย และไม่มีโอกาสได้ต่อสู้คดีอย่างสุดความสามารถเพราะไม่สามารถอนุมัติการเงินใดๆได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีการกล่าวถึง ไม่ว่าอย่างไร ลุกเกอร์ตระหนักว่า เขาควรที่จะเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่าที่จะรอจนถูกจับตัวได้ในที่สุด”
นอกจากนี้ ค็อกห์แลนด์กล่าวต่อว่า “ลุกเกอร์จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดในการต่อสู้คดีจนกว่าจะได้พบกับทนายความเสียก่อน และหลังจากนั้นจะยอมเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากเจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่ามีความจำเป็นที่ต้องตามจับตัวลุกเกอร์ ที่ทางไทยคาดว่าเขามีส่วนในการเสียชีวิตของหญิงไทยผู้นี้ ทางเจ้าหน้าที่สามารถกระทำได้ด้วยความชอบธรรม แต่หากว่าทางตำรวจจับชายที่ปราศจากความผิดผู้นี้และส่งเข้าเรือนจำที่เขาไม่สามารถติดต่อสถาบันการเงินเพื่อทำธุรกรรมในการจัดการสู้ข้อกล่าวหาได้ นี่จะถือเป็นความเสี่ยงอย่างสูงในความล้มเหลวทางกระบวนการยุติธรรม”
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า ผู้ต้องสงสัยชาวอังกฤษเดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2014 และถูกพบเห็นอยู่กับลักษมี 2 วันหลังจากนั้น ซึ่งคนทั้งคู่ถูกจับภาพเดินจับมือโดยกล้องวงจรปิดของนานาพลาซ่า ซึ่งตั้งอยู่ในถิ่นขึ้นชื่อในเรื่องแหล่งเริงรมณ์ติดอันดับโลก
นอกจากนี้มีรายงานว่า ลักษมี สาวศรีสะเกษมักจะส่งเงินที่ได้จากการทำงานกลับไปให้นางสัด มารดาที่อยู่ทางบ้านผ่านทางบริการโอนเงินเวิสเทิร์น ยูเนียนเสมอ และเธอถูกรายงานว่าหายตัวไปเมื่อไม่มีการส่งเงินกลับบ้านตามปกติ และผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้ว่า ลักษมีได้รับบาดเจ็บจากแผลฉกรรจ์ และน่าจะเสียชีวิตเนื่องจากถูกทำให้ขาดอากาศหายใจ