xs
xsm
sm
md
lg

สีกากีฉาวอีก! ผบก.สระแก้วสั่งล่าคนร้ายแต่งตำรวจยศ “ร.ต.ท.” กับ “ด.ต.” บุกปล้นประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เจ้าทุกข์เล่าเหตุการณ์คนร้าย แต่งกายคล้ายตำรวจบุกปล้นบ้านเรือนประชาชนกลางวันแสกๆ
สระแก้ว - วงการสีกากีฉาวอีกแล้ว! หลังคนร้าย 4 คน แต่งกายคล้ายตำรวจสังกัดนครบาล บุกเข้าปล้นบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอคลองหาด “ผบก.สระแก้ว” สั่งระดมกำลังไล่ล่า ตรวจสอบพบเป็นแก๊งตำรวจชั่วจริง สังกัดตำรวจนครบาล สน.หนึ่งในกรุงเทพฯ ยศ “ร.ต.ท.” กับ “ด.ต.” และเคยมีคดีพัวพันกับเรื่องทำร้ายผู้หญิง มั่นใจจับตัวได้เร็วๆ นี้

วันนี้ (12 ก.พ.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สระแก้ว ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ และตำรวจจากกองปราบปราม ลงพื้นที่ติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจจากกองปราบปราม จำนวน 4 คน บุกเข้าปล้นบ้านเรือนประชาชน ที่บ้านเลขที่ 64 หมู๋ 11 บ้านเทพนิมิต ต.ซับมะกรูด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากศูนย์วิทยุ 191 สระแก้ว ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายขับรถเก๋งบุกเข้าปล้นบ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ทาง ร.ต.ท.ธนูฤทธิ์ กะมุดรัตน์ พนักงานสอบสวนทำหน้าที่ร้อยเวร สภ.คลองหาด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบยังบ้านที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบ นายนิพนธ์ อินทสืบวงษ์ อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านถูกใส่กุญแจมือติดอยู่กับน้องสะใภ้ โดย นายนิพนธ์ ถูกใส่กุญแจมือทั้ง 2 ข้าง แต่น้องสะใภ้ คนร้ายใสกุญแจมือเพียงข้างเดียว

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไขกุญแจมือ นายนิพนธ์ ออกแล้ว นายนิพนธ์ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะที่อยู่ภายในบ้าน ได้มีรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ล้อแม็กสีดำคาดแดง มาจอดที่หน้าบ้าน มีชายฉกรรจ์นั่งมาในรถ 4 คน จากนั้นคนร้าย 3 คน ได้ลงมาจากรถ ส่วนอีก 1 คน นั่งติดเครื่องรออยู่บนรถเก๋ง โดยคนร้ายทั้ง 4 คน แต่งกายคล้ายตำรวจ มีอาวุธปืนพกสั้นเหน็บที่เอวทุกคน และมีบัตรห้อยคอ

หลังเดินเข้ามาในบ้านได้แสดงตนว่า เป็นตำรวจกองปราบปราม แล้วทำการตรวจค้นภายในบ้านของผู้เสียหาย โดยชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน อ้างว่า พวกตนได้จับกุม นายหริ่ง โลเกตุ ซึ่งเป็นน้องชายของตนโดยพวกตนเดินทางมาขยายผล หลังจากพูดจบชายทั้ง 3 คน ได้ทำการจับตนแล้วใส่กุญแจมือ พอดี น.ส.นุชจรินทร์ โลเกตุ อายุ 36 ปี เดินเข้ามาเลยถูกคนร้ายจับใส่กุญแจมืออีกหนึ่งคน ก่อนนำตัวตน และ น.ส.นุชจรินทร์ เข้าไปในบ้านแล้วบังคับให้บอกที่ซ่อนเงิน และทอง

นายนิพนธ์ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังต่อว่า จากการบุกค้นของคนร้ายทั้ง 4 คนในครั้งนี้ คนร้ายได้เงินไป 5,000 บาท ปืนพกสั้นขนาด 9 มม. (ดาวดำ) 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง แต่พอดีนายแสงจันทร์ โลเจตุ อายุ 64 ปี พ่อของ น.ส.นุชจรินทร์ วิ่งมาถึงบ้านแล้วร้องตะโกนว่า เป็นตำรวจปลอมคนร้ายจึงรีบผละออกจากบ้านแล้วรีบวิ่งขึ้นรถขับหนีไปทางบ้านวังยาง ผ่านอ่างเก็บน้ำบ้านคลองวังจิก เข้าซอยถนนลูกรังข้างวัดหนองคาย มุ่งหน้าบ้านโนนสง่า ทะลุถนนลาดยางสายคลองหาด-วัฒนานคร หลังจากนั้นก็หายไป

สาเหตุที่คนร้ายหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้อย่างหวุดหวิด เนื่องจากคนร้ายมีวิทยุสื่อสารของตำรวจ เนื่องจากตำรวจใช้วิทยุ ว.สกัด คนร้ายจึงทราบพิกัดของตำรวจที่สกัดจับ

แต่หลังจากร้อยเวรตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบกระดาษบันทึกการจับกุม จำนวน 1 แผ่น ระบุหน่วยงานปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รอง ผบก.กองปราบฯ และพบรูปถ่ายที่ผู้ก่อเหตุทำตกไว้ในที่เกิดเหตุ

หลังเจ้าหน้าที่นำรูปถ่ายมาให้ นายนิพนธ์ ดู นายนิพนธ์ ยืนยันว่า 2 ใน 4 เป็นคนร้ายที่บุกเข้ามาปล้นตนเอง หลังตรวจสอบประวัติแล้วปรากฏว่า ทั้ง 2 คนเป็นตำรวจจริงๆ แต่ไม่ได้สังกัดกองปราบปรามฯ แต่สังกัดตำรวจนครบาล สน.หนึ่งในกรุงเทพฯ ยศ “ร.ต.ท.” และยศ “ด.ต.” และเคยมีคดีพัวพันกับเรื่องทำร้ายผู้หญิง แต่นางปวีณา ได้ช่วยเหลือไว้

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ กล่าวว่า ขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดลึกไปมากกว่านี้ได้ เนื่องจากจะทำให้เสียรูปคดี อย่างไรก็ตาม อยากฝากบอกมายังประชาชนว่าหากเกิดเหตุถูกปล้นในลักษณะนี้ขอให้ตั้งสติให้ดีแล้วจดจำรายละเอียด เรื่องยี่ห้อรถยนต์ รูปร่างหน้าตาของคนร้ายไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตามจับคนร้ายได้รวดเร็วขึ้น
เจ้าหน้าที่เร่งติดตามเหตุการณ์ดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น