เอเอฟพี - ในวันจันทร์(9) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา จะต้อนรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิลที่ทำเนียบขาวเพื่อหารือ 2 ต่อ 2 หารือถึงวิธียุติวิกฤตยูเครน หลังจากก่อนหน้านั้น ผู้นำหญิงเยอรมันไม่เห็นด้วยที่สหรัฐฯจะส่งอาวุธช่วยยูเครนเพื่อดับความแข็งกร้าวของรัสเซีย
ในขณะที่การเจรจา 4 ฝ่ายเพื่อหาทางออกวิกฤตยูเครนจะเริ่มต้นอีกครั้งในวันพุธ(11) ในสหรัฐฯประธานาธิบดีบารัค โอบามา เผชิญหน้ากับข้อเรียกร้องจากนักการเมืองสายเหยี่ยวที่ต้องการให้อเมริกาส่งอาวุธช่วยเสริมสมรรถนะให้รัฐบาลยูเครน ในขณะที่ผู้นำชาติยุโรป เช่น นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล ไม่เชื่อว่าการได้รับความช่วยเหลือด้านอาวุธจากสหรัฐฯจะช่วยพลิกสถานการณ์ที่เพี่ยงพล้ำของทหารยูเครนที่เผชิญหน้ากับขุมกำลังของทัพรัสเซีย แต่จะกลับเป็นการกระพือความขัดแย้งให้ลุกลามเป็นสงครามแทน ซึ่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤตยูเครนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5,400 คนในเวลาที่ไม่ถึงปี
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ในยุทธวิธีที่ต่างสหรัฐฯ แมร์เคิลเลือกที่จะใช้วิธีทางการทูตเดินหน้าเจรจากับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน โดยผู้นำเยอรมันและประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ อองลองด์ ได้พบกับปูตินที่กรุงมอสโกเพื่อหารือหาทางออก
และการเจรจา 4 ฝ่ายของผู้นำ 4 ชาติ เยอรมัน ฝรั่งเศส รัสเซีย และยูเครนจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่แมร์เคิลบินออกจากวอชิงตัน ซึ่งสื่อฝรั่งเศสคาดว่าแมร์เคิลลจะกลับไปพร้อมความเคลือบแคลงที่โอบามาอาจปรารภกับเธอถึงท่าทีที่น่าสงสัยของรัสเซีย จากการที่มีหลายฝ่ายในฟากฝั่งของรัฐบาลสหรัฐฯเชื่อว่า ปูตินใช้การเจรจาสันติภาพเพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น หลังจากที่พบว่าการเจรจาหยุดยิงในเบลารุสเมื่อเดือนสิงหาคมนั้นล้มไม่เป็นท่า “จากสิ่งที่รัสเซียได้พิสูจน์ล่าสุด ขอให้ประธานาธิบดีปูตินแสดงด้วยการกระทำ มิใช่คำพูด อย่ากล่าวกับเรา แต่จงแสดงออกมา เพราะประธานาธิบดีปูตินให้คำมั่นในการหยิบยื่นสันติภาพที่บ่อยครั้ง แต่ในขณะเดียวกันกลับส่งรถถังและอาวุธตลอดจนหน่วยรบข้ามพรมแดน” โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นในการประชุม Munich Security Conference 2015 ในวันเสาร์(7)ล่าสุด และในขณะที่ไบเดนไม่ได้ระบุว่าสหรัฐฯจะส่วมอบอาวุธให้ยูเครน แต่เขายืนยันหนักแน่นว่ายูเครนมีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องตนเองจากการรุกราน
ทั้งนี้เอเอฟพีวิเคราะห์ว่า การตัดสินใจในการติดอาวุธให้กับกองทัพยูเครนจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อช่องทางเจรจาสันติภาพทั้งหมดล้มเหลว และวอชิงตันยังแสดงให้เห็นว่า นอกจากนี้การออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มขึ้น ถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่จะนำออกมาใช้ในอนาคต
