“เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ทรงเป็นห่วงหนุ่มสาวชาวมุสลิมถูกปลูกฝัง “คติหัวรุนแรงสุดโต่ง”

เอเอฟพี - เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักรทรงมีรับสั่งว่า การที่หนุ่มสาวชาวมุสลิมผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกล้างสมองด้วย “โฆษณาชวนเชื่อบ้าๆ” ทางอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่อง “น่าหวาดกลัว” ระหว่างการให้สัมภาษณ์ซึ่งจะออกอากาศทางโทรทัศน์ในวันนี้ (8 ก.พ.)

นอกจากนี้ รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ยังทรงแสดงความห่วงใยคลื่นคริสตศาสนิกชนที่อพยพหนีการไล่ล่าของกลุ่มหัวรุนแรงในตะวันออกกลาง พร้อมตรัสว่า สถานการณ์นี้อาจส่งผลให้หลงเหลือชาวคริสต์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดแห่งศาสนาเพียงไม่มาก

ในการให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุของบีบีซี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสว่า การล้างสมองนั้นเป็น “หนึ่งในเรื่องที่น่ากังวลร้ายแรงที่สุด” และประเด็นนี้จะต้องไม่ถูกซุกไว้ใต้พรมเสียเฉยๆ

ขณะตรัสถึง “ค่านิยมที่เรายึดมั่นเป็นสรณะ” เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงรับสั่งว่า “คุณอาจคิดว่า คนที่อพยพมาที่นี่ เกิดที่นี่ มาศึกษาเล่าเรียนที่นี่จะยึดถือค่านิยม และทัศนคติเหล่านั้น”

“แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือ คนเราสามารถถูกล้างสมองผ่านการติดต่อกับผู้อื่น หรือผ่านทางอินเทอร์เน็ต และโฆษณาชวนเชื่อบ้าๆ มากมายมหาศาลที่เผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต”

พระองค์ยังตรัสด้วยว่า “บางครั้งคนเราก็ถูกล้างสมองเพราะอยู่ในวัยที่ต้องการเสาะแสวงหาการผจญภัย และความตื่นเต้น”

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสว่า พระกรณียกิจส่วนใหญ่ที่พระองค์ทรงประกอบร่วมกับคนหนุ่มสาวในเขตกันดารยากไร้นั้นมุ่งเสาะหา “วิถีทางที่สร้างสรรค์” ให้คนเหล่านี้ได้พบโอกาสในการแสดงพลัง

พระองค์ทรงมีพระดำรัสว่า “มีบางกรณีที่น่าสนใจยิ่ง เพราะเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ว่าคนเราจะถูกปลูกฝังคติแบบหัวรุนแรงสุดโต่ง แต่ก็สามารถลบล้างความเชื่อเหล่านั้นในภายหลังได้ เพราะบางครั้งพวกเขาเองก็หวาดกลัวสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญ”

มกุฏราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักรตรัสว่า ในเวลานี้ คนเริ่มตระหนักกันมากขึ้นว่า จำเป็นต้องเตรียมการป้องกันปัญหานี้

“คุณไม่มีทางซุกปัญหานี้ไว้ใต้พรมได้หรอก”

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสว่า คริสตศาสนิกชนในภูมิภาคตะวันออกกลางกำลังมีจำนวนลดลงไปมาก เนื่องจากคนกลุ่มนี้กำลัง “ถูกคุกคามอย่างรุนแรงในระดับที่คุณคงไม่อยากจะเชื่อ” ในยามที่กลุ่มนักรบญิฮาดหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” บุกยึดครองดินแดนทางตอนเหนือของอิรัก

ทั้งนี้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เสด็จเยือนจอร์แดน คูเวต ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งแต่วานนี้ (7) จนถึงวันพฤหัสบดีนี้ (5)

ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นรัชทายาทอันดับดับหนึ่งของราชบัลลังก์อังกฤษ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จะทรงเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งอัครศาสนูปถัมภก หรือประมุขสูงสุดของคริสตจักรแห่งอังกฤษคนต่อไป