เอเอฟพี – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงนำคริสตศาสนิกชนร่วมสวดมิสซาเนื่องในวันคริสต์มาสอีฟที่นครรัฐวาติกัน วานนี้(24) โดยทรงวิงวอนให้ประชาชนทั่วโลกมีความ “อ่อนโยน” และ “อบอุ่น” ต่อกัน หลังจากปีนี้ซึ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้งกำลังจะผ่านพ้นไป
สันตะปาปาชาวอาร์เจนตินาทรงหยิบยกเรื่องราวในคัมภีร์พระคริสต์มาประกอบการเทศนา ซึ่งถ่ายทอดสดด้วยระบบ 3 มิติเป็นครั้งแรก
“เรามีความกล้าหาญพอไหมที่จะเผชิญความยากลำบาก และปัญหาของผู้คนที่อยู่รอบตัวเราด้วยความอ่อนโยน” พระสันตะปาปาตรัสถามชาวคริสต์ราว 5,000 คนซึ่งมาชุมนุม ณ โบสถ์บาซิลิกาแห่งมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์
“หรือเราจะเลือกทางแก้ไขแบบไร้มนุษย์สัมพันธ์ ซึ่งอาจจะได้ผลจริง แต่ปราศจากความอบอุ่นของเรื่องราวในพระคัมภีร์อย่างนั้นหรือ? โลกเราทุกวันนี้ต้องการความอ่อนโยนอย่างมาก”
พระประมุขแห่งชาวคริสต์คาทอลิกกว่า 1,200 ล้านคนทั่วโลกยังทรงวิงวอนให้ “ผู้ที่เย่อหยิ่ง ถือดี และไม่รู้จักรับฟังคนอื่น” หันมาใช้ชีวิตอยู่ใน “ความดีและความนอบน้อมถ่อมตน” มากขึ้น
ขณะเดียวกันที่เมืองเบธเลเฮมในเขตเวสต์แบงก์ บรรยากาศของการเตรียมค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีพิธีสวดมิสซา ณ โบสถ์คริสตสมภพ (Church of the Nativity) ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เชื่อกันว่าพระแม่มารีได้ทรงให้กำเนิดพระเยซู
อย่างไรก็ตาม เทศกาลคริสต์มาสปีนี้แฝงไปด้วยร่องรอยความโศกเศร้าต่อข่าวการเข่นฆ่ากวาดล้างชาวคริสต์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเรียกเสียงประณามอย่างรุนแรงจากทั่วโลก
“สำหรับพวกท่านหลายคน บทเพลงคริสต์มาสในปีนี้คงจะมีทั้งน้ำตาและเสียงถอนหายใจตามมาด้วย” พระสันตะปาปาตรัส โดยทรงหมายถึงชาวคริสต์ในตะวันออกกลางซึ่งถูกขับไล่ออกจากดินแดนที่พวกเขาเคยอยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคพระคัมภีร์ใหม่
สันตะปาปาฟรานซิสยังทรงมีพระดำรัสอวยพรทางโทรศัพท์ถึงผู้ลี้ภัยในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานแห่งอิรักด้วย
“พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยู่ใกล้ท่านเสมอ ใกล้ยิ่งนักในหัวใจของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นห่วงพวกท่านไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงวัย” สำนักข่าว AGI ของอิตาลีอ้างพระดำรัสที่ทรงมีต่อชาวคริสต์ผู้พลัดถิ่นในค่ายอันกาวา
อัครบิดร หลุยส์ ซาโก แห่งโบสถ์คริสต์นิกายแคลเดียนในกรุงแบกแดด ก็ได้ตรัสถึงชาวคริสต์ราว 150,000 คนที่ถูกกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขับไล่ออกจากบ้านเรือน เช่นเดียวกับชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ซึ่งอพยพหนีตายออกจากอิรักวันละหลายสิบคน
ชาวคริสต์ซีเรียในเมืองฮอมส์ (Homs) ก็ได้เฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่เขตฮามิดิเยห์ โดยมีการประดิษฐ์ต้นคริสต์มาสสีสันสดใสและรางหญ้าขึ้นท่ามกลางเศษซากปรักหักพังของเมือง
“พวกเราดีใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไร” ตักริด นานา ชาวซีเรียผู้หนึ่งให้สัมภาษณ์ระหว่างเลือกซื้อของตบแต่งที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในเขตฮามิดิเยห์ ซึ่งกองทัพซีเรียสามารถยึดคืนจากกบฏได้ในปีนี้
นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงราว 100 คนได้ออกมารวมตัวในเทศกาลคริสต์มาสหลังถูกตำรวจทลายค่ายผู้ประท้วงเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนที่ฝรั่งเศส บรรยากาศแห่งความสุขถูกบั่นทอนจากเหตุการณ์โจมตีหลายระลอกในช่วงไม่กี่วัน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บไป 25 คน