“เห็นดาวทองส่องสีรุจีแจ้ง บอกเหตุสำแดงถึงพระบุตรา ว่าพระองค์ทรงธรรมอันล้ำเลิศ ลงมาบังเกิด ณ พื้นพสุธา...” แว่วเสียงเพลงสวดในคืนเทศกาลคริสต์มาสของเหล่าคริสตัง (Cristão หรือ Christian) แห่งอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง บ้านท่าแร่ จ.สกลนคร ชุมชนชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
แสงจากดวงไฟหลากสีทั้งน้อยใหญ่ที่มาแต่งแต้มให้ประเพณีหนึ่งเดียวในประเทศไทยอย่าง “งานประเพณีแห่ดาว เทศกาลคริสต์มาส จังหวัดสกลนคร” ให้กลายเป็นค่ำคืนแห่งสีสัน อีกหนึ่งเทศกาลที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวของปีและเป็นเทศกาลเฉพาะของผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกเท่านั้น
ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี เกือบทั้งพื้นที่ของชุมชนจะเต็มไปด้วยดาวประดิษฐ์รูปแบบต่าง ๆ ฝีมือของผู้เฒ่าผู้แก่บ้านท่าแร่ที่จะนำไม้ไผ่มาเหลา ก่อนจะผูกมัดทับไขว้กันเป็นโครงไม้รูปดาวแล้วติดกระดาษแก้วหลากสีนำมาประดับวัด บ้านเรือน รวมไปถึงขบวนรถแห่ดาวซึ่งถือเป็นไฮไลท์ เพื่อสืบสานความเชื่อความศรัทธาอย่างมีสีสันตามแบบวิถีชุมชนชาวอีสาน
การแห่ดาวเริ่มจัดครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1982 (พ.ศ. 2525) เพื่อเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า ตามตำนานที่เล่าว่า ในช่วงเวลาที่พระเยซูประสูตินั้น โหราจารย์ได้มองเห็นดาวลักษณะพิเศษดวงหนึ่งที่มีความสุกสว่างกว่าดาวทั่วไปปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเป็นที่น่าอัศจรรย์ จึงออกเดินทางตามแสงแห่งดวงดาว จนไปพบกับสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่เมืองเบธเลเฮม ประเทศปาเลสไตน์ นับแต่นั้นมาชาวคริสต์จึงถือว่า “ดาว” คือสัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซูเจ้า หรือที่ทั่วโลกรู้จักกันในนาม “Star of Bethlehem” แต่ก็ไม่มีชาติใดมีพิธีแห่ดาวเช่นที่จังหวัดสกลนครนี้ซึ่งจัดสืบเนื่องกันมายาวนานกว่า 30 ปี เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นั้น
หมู่บ้านท่าแร่เป็นชุมชนคาทอลิคเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี และถือว่าเป็นชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชาวบ้านแทบทุกหลังคาเรือนนับถือศาสนาคริสต์ เล่ากันว่า ในอดีตชาวท่าแร่เป็นคริสตศาสนิกชน อพยพมาจากเวียดนาม ที่ได้รับการปลดปล่อยจากการเกณฑ์แรงงานทาสและมีผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผี ปอบ จำนวน 40 คน มาอาศัยอยู่ในตัวเมืองสกลนคร โดยมีบาทหลวงเกโกมิชชันนารีชาวฝรั่งเศสคอยดูแล เมื่อจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ทั้งมีปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐบางคน บาทหลวงเกโกจึงหาทำเลที่ตั้งหมู่บ้านใหม่ โดยจัดทำแพขนาดใหญ่ทำด้วยเรือเล็ก นำไม้ไผ่ผูกติดกัน ใช้ผ้าห่มและผืนผ้าขึงแทนใบ บรรทุกทั้งคนทั้งสัมภาระให้สายลมพัดพาไปในทิศที่พระเป็นเจ้าทรงประสงค์ ในที่สุดพวกเขาสามารถข้ามไปอีกฟากหนึ่งของหนองหานได้อย่างปลอดภัย ณ บริเวณที่เต็มไปด้วยป่าไม้ มีหินลูกรังอยู่ทั่วไป ซึ่งคนพื้นเมืองเรียก “หินแฮ่” จนต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อบ้านท่าแฮ่ หรือท่าแร่ในปัจจุบัน
นอกเหนือจากการชมดาวที่ประดับทั่วท่าแร่แล้ว ภายใน ต.ท่าแร่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอย่างทิวทัศน์ของ “หนองหาน” (หนองหาร) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่อันขึ้นชื่อของสกลนครที่มีอาณาเขตครอบคลุมมาถึง โดยเฉพาะช่วงเวลาอาทิตย์อัศดงก่อนจะลาลับขอบฟ้า รวมถึงความอลังการของ “โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล” โบสถ์ที่ใช้เป็นจุดสิ้นสุดของการแห่ดาว ซึ่งมีความสำคัญกับชาวท่าแร่ เพราะโบสถ์ขนาดใหญ่สีขาวรูปทรงคล้ายเรือนั้นสร้างไว้เพื่อระลึกถึงการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนในหมู่บ้านนี้
ไม่เพียงเท่านั้นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสผสมเวียดนามอายุร่วม 100 ปีอันโดดเด่นของชาวท่าแร่กับผังเมืองรูปสี่เหลี่ยมตารางหมากรุกคล้ายกับบ้านเมืองในแถบประเทศตะวันตก ยังเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของชุมชนเล็ก ๆ แห่งนี้ ยังคงความคลาสสิกงดงามเรียงรายสองข้างทางในถนนสายหลักของหมู่บ้าน มีทั้งแบบเรือนเดียวชั้นเดียวพื้นติดดิน และแบบอาคารก่ออิฐสองชั้น ซึ่งในสมัยก่อนเรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูงในการก่อสร้าง
สำหรับ “งานประเพณีแห่ดาว เทศกาลคริสต์มาส จังหวัดสกลนคร” ปีนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2557 โดยกิจกรรมในงานจะจัดขึ้นจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม ที่ชุมชนท่าแร่ พบกับขบวนแห่ดาวคริสต์มาส “มหัศจรรย์ สีสันดาวบนดิน” ขบวนรถแห่ดาวที่ประดับตกแต่งด้วยดวงดาวรูปต่าง ๆ กว่า 20 ขบวน ชมสถาปัตยกรรมโคโลเนียลอายุกว่า 100 ปี การประดับประดาบ้านเรือนด้วยดาว ไฟแสงสีระยิบระยับสวยงามตระการตา กิจกรรมสาธิตการทำดาว และถนนคนเดิน และในวันที่ 24 ธันวาคม พบกับชมขบวนแห่ดาวมือถือ รอบโบสถ์ท่าแร่ การแห่ดาวแบบดั้งเดิมของชุมชนท่าแร่ด้วยดวงดาวน้อยใหญ่ที่ถืออยู่ในมือ พิธีบูชามิสซา ณ โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล
ส่วนในวันที่ 25 ธันวาคม เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พบกับความอลังการของ “ดาวบนดินนับหมื่นดวง” ขบวนรถดาวกว่า 200 คัน แห่ไปตามถนนโดยเริ่มจากบริเวณหน้าลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 ศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร แห่รอบตัวเมืองไปยังบริเวณจัดงาน ณ สำนักมิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง (โรงเรียนเซนต์ยอแซฟ) ขบวนแห่ดาวจากชุมชนชาวคริสต์ในเขตมิสซังท่าแร่-หนองแสง หรืออัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง 4 จังหวัดทั้ง จ.สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ทำให้ถนนในค่ำคืนนั้นกลายเป็นถนนสายดวงดาวที่สว่างไสวและอึกทึกไปด้วยเพลงสรรเสริญพระเจ้า
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมชมงาน ณ บริเวณโรงเรียนเซนต์ยอแซฟได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งภายในงานจะมีการแสดงดนตรีบนเวที การสาธิตทำดาว การจำหน่ายอาหารและสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน การแสดงนิทรรศการขององค์กร หน่วยงานและชุมชนต่างๆ พร้อมชมการแสดงละครเทวดาวันคริสต์สมภพ การแสดงชุดอาเซียน จินตลีลาประกอบเพลง การร้องเพลงประสานเสียงเพลงคริสต์มาสและชมพลุไฟเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสอันตระการตา
และพิเศษ !! สำหรับ "งานประเพณีแห่ดาว เทศกาลคริสต์มาส จังหวัดสกลนคร" ปีนี้ นักท่องเที่ยว 1,000 คนแรกที่ซื้อสินค้าและบริการทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ที่เข้าร่วมรายการ ในจังหวัดสกลนคร ได้แก่ โรงแรมเอ็ม.เจ. เดอะมาเจสติก โรงแรมสกลพาเลซ ห้างสรรพสินค้าโรบินสันสกลนคร ร้านอาหารจานเปล ร้านอาหารกรีนคอนเนอร์ ร้านอาหารบ้านฟ้าโปร่ง ร้านวิลลี่แหนมเนือง ร้านอาหารฟาร์มฮัก ร้านอาหารบ้านโบแดง สวนอาหารเรือนริมน้ำ ท่าแร่ และ Buckstawk Coffee House ท่าแร่ ช่วงวันที่ 22-26 ธันวาคม ครบ 1,000 บาท สามารถนำใบเสร็จมาแลกพวงกุญแจที่ระลึกที่ บู้ธของ ททท.สำนักงานนครพนม ภายในงานประเพณีแห่ดาว เทศกาลคริสต์มาส ที่ ถนนคนเดินชุมชนท่าแร่ 23-24 ธันวาคม 2557, ที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟ สกลนคร 25 ธันวาคม 2557 และที่โรงแรม The Majestic (M.J.) 26 ธันวาคม 2557 หรือจนกว่าของจะหมด
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครพนม โทร. 0 4251 3490-1 เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. หรือติดตามข่าวสารที่ www.facebook.com/tatnakhonphanom สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร โทร. 0 4271 6247, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร (อบจ.สกลนคร) โทร. 0 4271 1773, สำนักมิสซังท่าแร่-หนองแสง โทร. 0 4271 1272และเทศบาลตำบลท่าแร่ โทร. 0 4275 1213
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com