ลือหึ่ง! องค์กรฮินดูที่พรรค รบ.อินเดียหนุนใช้ของกำนัลดึงชนกลุ่มน้อย “เปลี่ยนศาสนา” ได้ทั้งหมู่บ้าน

เอเอฟพี - บรรดาองค์กรฮินดูแนวทางแข็งกร้าวของแดนภารตะตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วในวันนี้ (21 ธ.ค.) ภายหลังมีคริสตศาสนิกชนราว 200 คน ในรัฐบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนไปนับถือศาสนาฮินดู ในช่วงที่เกิดความกังวลขึ้นเรื่อยๆว่า รัฐบาลชาตินิยมฮินดูชุดนี้กำลังแผ่อิทธิพลครอบงำเสรีภาพในการนับถือศาสนาของชาวอินเดีย

“วิชวาฮินดูปาริชาด” (วีเอชพี หรือ โลกสภาฮินดู) ซึ่งเป็นองค์กรฮินดูสายแข็งเปิดเผยว่า ได้เปลี่ยนศาสนาให้สมาชิกชนเผ่าที่นับถือคริสต์ในรัฐคุชราต ทางภาคตะวันตก อันเป็นบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (20)

การเปลี่ยนศาสนาหมู่ได้จุดประกายให้องค์กรคริสต์ และฝ่ายค้าน พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยพวกเขากล่าวหาว่า องค์กรหัวรุนแรงที่มีความสัมพันธ์กับพรรครัฐบาลของโมดี อย่างองค์กร “ราชตรียา สวายามเศวก สังฆะ” (อาร์เอสเอส) ได้บีบบังคับ หรือล่อลวงให้ชนกลุ่มน้อยชาวคริสต์เปลี่ยนไปนับถือศาสนาฮินดู

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21) ดิกวิจัย สิงห์ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน “คองเกรสปาร์ตี” โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “พรรคขวาจัดกำลังวางโต วีเอชพี และอาร์เอสเอสกำลังเขียนประวัติศาสตร์ และนโยบายเศรษฐกิจใหม่ โดยยึดเอาฮินดูตัตวา (ความเป็นฮินดู) เป็นหลัก”

นักบวชในรัฐคุชราตกล่าวว่า เขาไม่ “เชื่อว่าจะมีคนที่นับถือศาสนาคริสต์หันไปนับถือศาสนาอื่น ด้วยตัวเอง”

เว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีนิวส์ รายงานโดยอ้างคำพูดของคุณพ่อโดมินิก ซึ่งระบุว่า “วีเอชพี่กำลังบีบบังคับประชาชน และหลอกล่อให้พวกเขาเปลี่ยนศาสนา”

พิธีเปลี่ยนศาสนาหมู่จัดขึ้นในหมู่บ้านของชนเผ่าดังกล่าว ที่อยู่ห่างจากอาห์เมดาบัด เมืองเอกของรัฐคุชราตลงไปทางใต้ 350 กิโลเมตร

ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังพรรคชาตินิยมฮินดู “ภารติยชนตะ” (บีเจพี) ของโมดี และที่ปรึกษาด้านอุดมการณ์ขององค์กรอาร์เอสเอส ออกมาเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายห้ามการ “บีบบังคับให้เปลี่ยนศาสนา”

อาจิต โศลันกี เลขานุการของวีเอชพี ในรัฐคุชราตกล่าวกับเอเอฟพีว่า “ประชาชนกว่า 200 คนถูกขอให้ขว้างสัญลักษณ์ทางศาสนาของตนเข้ากองไฟศักดิ์สิทธิ์ แล้วรับเอาวัตถุบูชาใหม่ๆ พร้อมกับรูปเคารพของพระรามกลับไป”

อย่างไรก็ตาม โศลังกีปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้กำลัง หรือให้เงินจูงใจ พร้อมยืนกรานว่า คนเหล่านี้สมัครใจเปลี่ยนศาสนาด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ประเทศประชาธิปไตยที่มีประชากรมากที่สุดในโลกแห่งนี้ ได้แยกศาสนาออกจากปกครอง และถือว่าเสรีภาพในการนับถือศาสนาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนศาสนาหมู่ได้ฉุดให้สภาอินเดียตกอยู่ในสภาวะชะงักงัน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกร้องให้โมดีชี้แจงรายงานเมื่อก่อนหน้านี้ที่ว่า มีชาวมุสลิมฐานะยากจนถูกบังคับให้เปลี่ยนไปนับถือฮินดู

เมื่อราวหนึ่งสัปดาห์ก่อน องค์กรฮินดูสายแข็งที่มีความสัมพันธ์กับบีเจพี ได้ถูกกล่าวหาว่าเปลี่ยนศาสนาให้ชาวมุสลิมประมาณ 50 ครอบครัวในชุมชนแออัดของเมืองอัครา อันเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์แห่งความรัก “ทัชมาฮาล”

หนึ่งในผู้ที่หันไปนับถือฮินดูเล่าให้เอเอฟพีฟังว่า พวกเขาได้รับบัตรแลกอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนเงินล่อใจเป็นสิ่งตอบแทนในการเปลี่ยนศาสนา