เอเอฟพี - อัตราการฆ่าตัวตายในกรีซเพิ่มสูงขึ้น 1 ใน 3 หลังจากที่รัฐบาลกรีซบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวดเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2011 งานวิจัยล่าสุดเผยเมื่อวานนี้(2)
จำนวนชาวกรีซที่ฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 35.7% เมื่อเทียบกับช่วงไม่กี่เดือนก่อนที่กรุงเอเธนส์จะเริ่มตัดทอนงบประมาณรายจ่าย และแนวโน้มก็เป็นเช่นนั้นตลอดปี 2011 ก่อนจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2012 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ทำการวิจัย
นักวิจัยในสหรัฐฯและกรีซได้ศึกษาข้อมูลการกระทำอัตวินิบาตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วง 30 ปี นับจากวันที่ 1 มกราคม ปี 1983 จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ปี 2012 โดยใช้ทั้งตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสถิติแห่งชาติกรีซ รวมถึงบางกรณีที่ผู้ตายปลิดชีพตนเองแต่ถูกระบุว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามทางศาสนา
สถิติพบว่า ในช่วง 30 ปีมีชาวกรีซที่ฆ่าตัวตาย 11,505 คน เป็นชาย 9,079 คน และหญิง 2,426 คน จากนั้นนักวิจัยจึงนำตัวเลขไปเปรียบเทียบกับปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาดังกล่าว
ผลวิจัยพบว่า อัตราการฆ่าตัวตายต่อเดือนลดลงเมื่อมีข่าวดีในเชิงเศรษฐกิจ เช่น เดือนมกราคม ปี 2002 ที่กรีซเริ่มใช้สกุลเงินยูโร จำนวนชายที่ฆ่าตัวตายลดลงถึง 27.1%
ตัวเลขรายเดือนเริ่มขยับสูงขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน โดยมีชายชาวกรีซฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 13%
อัตราการฆ่าตัวตายยิ่งพุ่งสูงขึ้นในปี 2011 หลังจากรัฐบาลเอเธนส์หันมาใช้มาตรการขัดเข็มขัดตามเงื่อนไขกู้ยืมเงินจากต่างประเทศเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจกรีซที่กำลังถดถอยอย่างรุนแรง