เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราส ผู้นำรัฐบาลกรีซ ออกโรงแสดงความมั่นใจ เศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่บนเส้นทางแห่งการฟื้นตัว พร้อมยืนยัน กรีซไม่จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือจากบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศเป็นครั้งที่ 3
นายกรัฐมนตรีกรีซวัย 63 ปีซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะผู้นำรัฐบาลเอเธนส์มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2012 เปิดเผยระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นโดยระบุ ถึงแม้กรีซจะเกือบต้องประสบภาวะล้มละลาย และสุ่มเสี่ยงต่อการถูกขับจากการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ในขณะนี้ กรีซสามารถผลักดันตัวเองให้กลับมายืนอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแล้ว หลังจากที่กรีซสามารถกลับมามีงบประมาณที่เกินดุลได้เป็นครั้งแรกในปีที่แล้ว รวมถึง สามารถชำระดอกเบี้ยเงินกู้ต่างประเทศได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเช่นกัน
ซามาราสยังแสดงความมั่นใจว่า กรีซไม่จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเป็นรอบที่ 3 ในช่วงสิ้นปีนี้ จากทางสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รวมถึงธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แม้ที่ผ่านมากรีซต้องพึ่งพาเงินกู้ยืมจำนวน 240,000 ล้านยูโรจากบรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศ ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2010เพื่อให้สามารถประคองตัวรอดพ้นจากภาวะล้มละลายทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ท่าทีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีกรีซมีขึ้นหลังจากมีรายงานจากธนาคารกลางของกรีซว่า เริ่มพบสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่เม็ดเงินกู้ยืมจากเพื่อนบ้านในกลุ่มยูโรโซนตั้งแต่เมื่อกว่า 4 ปีก่อนยังคงหลงเหลือในระบบงบประมาณของกรีซจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่เงินกู้ยืมที่ได้รับจากไอเอ็มเอฟ ยังคงเหลือมากพอที่จะใช้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจกรีซได้จนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2016