เอเอฟพี - รัฐมนตรีคลังของกรีซระบุในวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.) ว่ารัฐบาลของเขานั้นอยากให้ธนาคารกลางยุโรปยอมเลื่อนกำหนดการจ่ายเงินบางส่วนของพันธบัตรกรีซที่อีซีบีถือไว้ 27 พันล้านยูโร มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่สามารถชำระเงินคืนแก่เจ้าหนี้ได้
ยานิส วารูฟาคิส บอกในการแถลงข่าวว่า เรื่องนี้เรียบง่ายเข้าใจได้ไม่ยาก นั่นคือกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรเหล่านั้นจะต้องถูกขยายเวลาออกไปอีก นี่เป็นเรื่องที่ชัดเจนต่อธนาคารกลางยุโรป
วารูฟาคิสบอกว่า พันธบัตรเหล่านี้ถูกซื้อไปโดยธนาคารกลางยุโรปในปี 2010 และ 2011 เขายังได้บอกอีกว่า ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมนี้ กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระเงินคืนประมาณ 6 พันล้านยูโรให้แก่ธนาคารกลางยุโรป จากพันธบัตรชุดเดียวกัน
“กระทรวงการคลังของกรีซจะต้องหาหนทางหยิบยืมเงินจำนวนนั้นมาจากคนอื่น เพื่อนำมาชำระคืนให้แก่พวกเขา” เขากล่าว
วารูฟาคิสได้เตือนว่า ประเทศของเขานั้นกำลังพบความเสี่ยงที่จะขาดสภาพคล่องภายใน 2 สัปดาห์ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับบรรดาเจ้าหนี้ เพื่อปลดล็อคตามเงื่อนไขที่จะได้รับเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย
รัฐบาลกรีซกับบรรดาเจ้าหนี้อย่างอียู และไอเอ็มเอฟ ต้องอับจนหนทางมาเป็นเวลานานนับ 4 เดือน เกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจกรีซ เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายจำนวน 7.2 พันล้านยูโร ซึ่งสถานการณ์นี้ได้ก่อให้เกิดความกังวลว่ากรีซจะขาดสภาพคล่องอย่างหนัก จนต้องลงเอยด้วยการไม่ชำระหนี้ แล้วก็ออกจากกลุ่มยูโรโซนในที่สุด
สื่อกรีซที่สนับสนุนรัฐบาลได้รายงานข่าวในวันพฤหัสบดีว่า กรีซยังคงหวังที่จะหาทางรักษาข้อตกลงเอาให้ได้ ก่อนถึงวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งเป็นกำหนดวันชำระเงิน 302.5 ล้านยูโรคือให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นอกจากนี้ กรีซยังเตรียมที่จะประชุมรัฐมนตรีคลังของประเทศกลุ่มยูโรโซนในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้มีการอนุมัติข้อตกลงต่างๆ