เอเอฟพี - การเจรจาสันติภาพ เพื่อระงับเหตุนองเลือดทางภาคตะวันออกของยูเครนยุติลงด้วยความล้มเหลววานนี้ (31 ม.ค.) โดยคณะผู้แทนเจรจาฝ่ายรัฐบาลยูเครนระบุว่า กลุ่มติดอาวุธโปรรัสเซียได้ขัดขวางกระบวนการบรรลุข้อตกลง ด้วยการไม่ยอมพูดถึงแผนการหยุดยิงในทันที
อดีตประธานาธิบดียูเครน เลโอนิด คุชมา เปิดเผยกับสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ยูเครนว่า การหารือทีถูกเลื่อนไปแล้วครั้งหนึ่ง ณ กรุงมินสก์ ของเบลารุสถูก “ขัดขวาง” ภายหลังบรรดาผู้นำกบฏระดับสูงไม่มาเข้าร่วม และคณะผู้เจรจาที่พวกเขาส่งไม่ยอมพูดถึงแผนการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง
นอกจากนี้ คุชมายังกล่าวหาว่าคณะผู้แทนของกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนได้ “ยื่นคำขาด” หลายข้อในการประชุมนาน 4 ชั่วโมงที่เมืองเบลารุส โดยไม่มีการชี้แจงรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม เดนิส ปูชิลิน ผู้เจรจาที่เป็นตัวแทนจากดินแดนที่กบฏประกาศให้เป็น “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์” โทษเคียฟว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้การเจรจาล่ม และกล่าวว่า บรรดาผู้นำกบฏจะตกลงพักรบ ก็ต่อเมื่อกองกำลังรัฐบาลเคียฟยอมเป็นฝ่ายหยุดยิงก่อน
นอกจากนี้ ปูชิลินยังกล่าวด้วยว่า กลุ่มกบฏเน้นย้ำว่า เส้นเขตแดนของนั้นจะยังหมายรวมถึงดินแดนที่รัฐบาลยูเครนยินยอมให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนมีสิทธิ์ปกครองตนเอง ตามที่มีการเห็นพ้องกันเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีขนาดราว 500 ตารางกิโลเมตร
คณะผู้ไกล่เกลี่ยจากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป (OSCE) คาดหวังที่จะหาทางให้ทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงพักรบ เพื่อฟื้นคืนแผนสันติภาพที่พังไม่เป็นท่า ถึงแม้เคียฟกำลังเผชิญกับสถานการณ์นองเลือดเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในวิกฤตสู้รบที่ยืดเยื้อมานาน 9 เดือน และล่าสุดนี้มีทหารยูเครนถูกสังหารไปแล้ว 15 นาย
OSCE ตลอดจนเจ้าหน้าที่รัสเซีย ได้เดินทางไปร่วมการเจรจาที่กรุงมินสก์ ภายหลังการทำข้อตกลงหยุดยิง ที่รัฐบาลยูเครนและกลุ่มติดอาวุใฝ่รัสเซียลงนามร่วมกันเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ล้มเหลว เนื่องจากเหตุรุนแรงที่ปะทุขึ้นเมื่อล่าสุดนี้
*** หยุดยิงเร่งด่วน ***
วานนี้ (31) ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลองด์แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ได้หารือกันทางโทรศัพท์ พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดน และทหารเคียฟหยุดยิง ในยามที่วิกฤตยูเครนคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 5,100 คน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ พร้อมกับประกาศจะเดินหน้าโจมตีขยายพื้นที่อิทธิพลของกบฏในเขตอุตสาหกรรม ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน
เมื่อวันศุกร์ (30) พวกเขากล่าวว่าจะเดินหน้าโจมตี “จนกว่าจะไม่มีทหารยูเครนหลงเหลือในแคว้นโดเนตสก์และลูกันสค์” หากการเจรจาสันติภาพล้มเหลว
เจ้าหน้าที่ OSCE กล่าวว่า พวกเขาคาดหวังว่า การทำข้อตกลง จะนำไปสู่การเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถส่งข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปช่วยเหลือชาวยูเครนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์สู้รบ ในขณะที่ยอดพลเรือนที่เสียชีวิตในโดเนตสค์ และลูกันสค์ กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ