เอเอฟพี – พลเรือนอย่างน้อย 16 คนถูกสังหารในการต่อสู้อย่างดุเดือดทั่วภาคตะวันออกของยูเครนตลอดช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่าน เจ้าหน้าที่รัฐบาลและกลุ่มกบฏระบุวันนี้ (3)
พลเรือน 5 คนถูกสังหารโดยรอบพื้นที่การสู้รบเมืองดีบัลท์เซฟ ขณะที่อีก 6 คนถูกสังหารในและนอกแคว้นโดเนสต์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกลุ่มกบฏ และอีก 5 คนถูกสังหารในแคว้นลูกันสค์ที่อยู่ข้างเคียง เจ้าหน้าที่โปรเคียฟและกลุ่มกบฏ ระบุ
การสู้รบอย่างดุเดือนส่วนใหญ่ในช่วงไม่กี่วันมานี้เกิดขึ้นที่รอบๆ เมืองดีบีลท์เซฟ ที่ซึ่งกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียกำลังต่อสู้เพื่อโอบล้อมกองกำลังยูเครน
กระทรวงมหาดไทยของแคว้นโดเนตสค์ที่รัฐบาลควบคุมอยู่ ระบุว่า พลเรือน 5 คนถูกสังหารที่นั่น
ในเมืองอัฟดีอีฟกา ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองโดเนตสค์ไปทางตอนเหนือ ก็มีพลเรือนอีก 1 รายถูกสังหาร และอีกกว่า 18 คนได้รับบาดเจ็บโดยรอบพื้นที่ที่เคียฟยึดครองอยู่ ทางกระทรวง ระบุ
ขณะที่ในเมืองโดเนสต์ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนควบคุมอยู่ มีพลเรือน 5 คนถูกสังหารและอีก 13 คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยการยิงปืนใหญ่ ศาลากลางที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฏ ระบุ
ในส่วนของแคว้นลูกันสค์ที่อยู่ข้างเคียง การยิงปืนใหญ่ได้สังหารชาวบ้านในหมู่บ้านบริเวณแนวหน้าภายใต้การควบคุมของรัฐบาลไป 5 ราย เจ้าหน้าที่ประจำท้องถิ่นที่ภักดีต่อเคียฟ กล่าว
ตัวเลขผู้บาดเจ็บล้มตายล่าสุดนี้มีออกมาในขณะที่มีความเกรงกลัวกันว่าการสู้รบอย่างรุนแรงในภาคตะวันออกของยูเครนจะขยายขอบเขตเพิ่มขึ้น
เมื่อวานนี้ (2) ผู้นำกลุ่มกบฏออกมาเรียกร้องให้มีการระดมกำลังกันขึ้นโดยสมัครใจเพื่อเพิ่มจำนวนนักรบของพวกเขาให้เป็น 100,000 คน
ในขณะเดียวกัน คณะเจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขากำลังพิจารณาอย่างหนักเรื่องการติดอาวุธให้เคียฟ โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่พวกเขาหวังว่าจะทำให้รัสเซียยุติกระกระทำที่พวกเขากล่าวหาว่าเป็น การสนับสนุนทางทหารต่อกลุ่มกบฏ
การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนหนักหน่วงรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่แทบไม่ได้มีความหมายใดๆ เลย และรุกเข้ามาในดินแดนที่เคียฟยึดครองลึกมากขึ้นกว่าเดิม