เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดรุนแรงกลางมัสยิดชีอะห์แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้คน ในเมืองทางภาคใต้ของปากีสถาน เมื่อวันศุกร์ (30 ม.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 60 ศพ นับเป็นเหตุโจมตีทางนิกายครั้งนองเลือดที่สุดของประเทศในรอบเกือบ 2 ปี
เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นที่มัสยิดในเมืองชิคาร์ปุระ ในแคว้นสินธุ์ ห่างจากการาชี เมืองเอกของแคว้น ไปทางเหนือราว 470 กิโลเมตร ท่ามกลางนักแสวงบุญหลายร้อยคนที่เข้าร่วมพิธีสวดมนต์ประจำวันศุกร์ (30 ม.ค.) ขณะที่ปากีสถานต้องประสบกับความรุนแรงระหว่างนิกายหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่กลุ่มมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงจะเป็นผู้ลงมือโจมตีชนกลุ่มน้อยมุสลิมชีอะห์
จัม เมห์ตับ ดาเฮอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของแคว้นสินธุ์ บอกกับเอเอฟพีว่า “ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีเพิ่มเป็น 61 คน โดย 54 ศพอยู่ที่โรงพยาบาลชิคาร์ปุระ ส่วนอีก 7 ศพเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสุคคูร์และโรงพยาบาลลาร์คานา” หลังจากก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพลเรือนในชิคาร์ปุระ บอกว่ายอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 48 ศพ
ประชาชนหลายร้อยคนรุดไปยังจุดเกิดเหตุ ในความพยายามขุดหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้หลังคามัสยิดที่พังถล่มลงมาตามแรงระเบิด ส่วนรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นภาพความสับสนวุ่นวาย ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันพาผู้ได้รับบาดเจ็บไปขึ้นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถลากเพื่อพาไปรักษา
ราฮัต คาซมี เจ้าหน้าที่จากองค์กรชีอะห์แห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่าในตอนที่เกิดระเบิดนั้น มีนักแสวงบุญอยู่ในมัสยิดราวๆ 400 คน ส่วนชาวบ้านคนหนึ่งเล่าว่าเขารู้สึกเหมือนแผ่นดินกำลังสั่นไหว ระหว่างที่กำลังสวดมนต์อยู่ที่มัสยิดอีกแห่งที่อยู่ห่างออกไปราว 1.5 กิโลเมตร
ด้านผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนเพื่อตรวจสอบว่าแท้จริงแล้วมันเป็นการโจมตีด้วยมือระเบิดฆ่าตัวตายหรือระเบิดน้ำหนักราว 6 - 7 กิโลกรัม ถูกจุดชนวนจากระยะไกล
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุโจมตีระหว่างนิกายครั้งเดียวที่นองเลือดที่สุดของปากีสถานนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 โดยคราวนั้นย่านชุมชนชีอะห์แห่งหนึ่งในการาจี ถูกถล่มด้วยคาร์บอมบ์ คร่าชีวิตผู้คนถึง 45 ศพ
โฆษกของกลุ่มนักรบจุนดุลเลาะห์ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มตอลิบานปากีสถาน ออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในวันศุกร์ (30 ม.ค.) “เราขออ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีชาวชีอะห์ในชิคาร์ปุระ ด้วยความสุขยิ่ง”
การโจมตีในวันศุกร์ มีขึ้นขณะที่นายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ กำลังเดินทางเยือนการาชี เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความสงบเรียบร้อยภายในเมือง