รอยเตอร์ - คนร้ายซุกระเบิดถล่มมัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองปาราชินาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานในวันศุกร์(31มี.ค.) คร่าชีวิตอย่างน้อย 22 ศพและบาดเจ็บหลายสิบคน เหตุโจมตีที่พวกตอลิบานปากีสถานออกมาอ้างความรับผิดชอบ
เหตุระเบิดในพื้นที่ห่างไกลตามแนวชายแดนอัฟกานิสถานเกิดขึ้นในระหว่างที่พวกชาวบ้านกำลังรวมตัวกันสวดมนต์ประจำวันศุกร์ ใกล้ทางเข้าของผู้หญิงของมัสยิดชีอะห์ ซึ่งตั้งอยู่กลางตลาด ในเหตุล่าสุดของระลอกคลื่นการโจมตีทั่วปากีสถาน ที่มีชาวสุหนี่เป็นชนกลุ่มใหญ่ ในปีนี้
อิครามุลเลาะห์ คาน นักการเมืองท้องถิ่นเปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 22 ศพและบาดเจ็บ 70 คน ส่วน ซาอิด ฮุสเซน สมาชิกรัฐสภาจากปาราชินาร์ ระบุว่าคนร้ายเปิดฉากยิงก่อนจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายโจมตี "การโจมตีเกิดขึ้นในพื้นที่ผู้คนพลุกพล่านและดูเหมือนว่าเป้าหมายจะเป็นมัสยิดของผู้หญิง" เขากล่าว
พวกเตห์ริค-ไอ-ตอลิบาน ปากีสถาน(ทีทีพี) หรือปากีสถานตอลิบาน ระบุว่าเหตุระเบิดเป็นส่วนหนึ่งในปฎิบัติการกาซีของพวกเขา ตั้งชื่อตามหนึ่งในแกนนำของกลุ่มที่ถูกกองกำลังความมั่นคงปากีสถานสังหารในปี 2007
ด้วยที่ประเทศแห่งนี้ถูกเล่นงานมาแล้วหลายระลอกในปีนี้ เหตุโจมตีล่าสุดจึงก่อความกังวลยิ่งขึ้นต่อสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างนิกายในปากีสถาน ชาติที่มีประชากรราว 200 ล้านคน
เจ้าหน้าที่เผยว่าเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยของทหารถูกส่งไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อช่วยอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ
ส่วน มุมตาซ ฮุสเซน แพทย์จากโรงพยาบาล Agency Headquarters Hospital ระบุว่ารับศพผู้เสียชีวิตมา 5 ราย ในนั้นเป็นผู้หญิง 1 คนและเด็ก 2 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 40 คนกำลังถูกลำเลียงมายังโรงพยาบาล พร้อมร้องขอรับบริจาคเลือด
เหตุโจมตีหลายต่อหลายครั้ง ได้กัดเซาะความหวังว่าปากีสถานอาจสามารถก้าวผ่านความรุนแรงจากฝีมือพวกนักรบที่ก่อแผลเป็นแก่ประวัติศาสตร์ของประเทศมาช้านาน และเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลของนาวาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องแสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยของประชาชนมีมากขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของนายชารีฟเอง ออกมาประณามเหตุโจมตีในวันศุกร์(31มี.ค.) และบอกว่ารัฐบาลจะเพิ่มความพยายามในการกำจัดภัยคุกคามก่อการร้าย
