ยูเอ็นเตือน “วิกฤตเอดส์” กำลังก่อตัวในไครเมีย - พื้นที่กบฏทางตะวันออกของยูเครน

(แฟ้มภาพ) เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดเผาทำลาย เมทาโดน ซึ่งเป็นยาสังเคราะห์ที่ใช้บำบัดผู้ติดเฮโรอีน ระหว่างดำเนินปฏิบัติการที่เมืองซิมเฟอโรโพล ในสาธารณรัฐไครเมีย

เอเอฟพี - วิกฤตสุขภาพขั้นร้ายแรงกำลังก่อตัวขึ้นในสาธารณรัฐไครเมีย ดินแดนที่ถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ และในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งกำลังบอบช้ำจากสงครามกลางเมือง เนื่องจากผู้ใช้ยาเสพติดประเภทฉีด ถูกตัดหนทางเข้ารับการบำบัดเพื่อเลิกเฮโรอีน ผู้แทนพิเศษด้านเอดส์จากองค์การสหประช่าชาติเปิดเผยวันนี้ (21 ม.ค.)

มิเคล คาซัทช์คิเน ผู้แทนพิเศษด้านเอดส์ประจำภูมิภาคยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางของยูเอ็น กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนถูกรัสเซียผนวกดินแดน ประชากรทั้งหมด 805 คนในไครเมีย ที่เคยเข้ารับการบำบัดจากอาการติดสารเสพติดกลุ่มโอปิออยด์ (OST) ซึ่งเป็นขั้นตอนการรักษาที่ได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็น บัดนี้ได้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ 80 ถึง 100 ราย

“เท่าที่เราได้ยินมา สาเหตุการตายส่วนใหญ่เกิดจากการฆ่าตัวตาย และการใช้ยาเกินขนาด” คาร์ซัทช์คิเนเน้นย้ำข้อมูลในรายงานที่ส่งถึง บัน คีมูน เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ

ผู้แทนยูเอ็นยังชี้ด้วยว่า วิกฤตด้านมนุษยธรรมกำลังก่อตัวขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครนจากหลายสาเหตุด้วยกัน ขณะที่รัฐบาลยูเครนยุติการจัดหายาสำหรับบำบัดผู้เสพติดด้วยวิธี OST ให้แก่พื้นที่ที่ถูกกบฏยึดครอง

การขาดการบำบัดนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อเฉพาะตัวผู้ติดยา ที่หันไปพึ่งพายาเสพติดอันตรายตามท้องถนนเพื่อคลายความอยากเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวการจุดชนวนเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นไวรัสที่แพร่ระบาดรวดเร็วที่สุดชนิดหนึ่งในโลก คาซัทช์คิเนกล่าวเตือน
มิเคล คาซัทช์คิเน ผู้แทนพิเศษด้านเอดส์ประจำภูมิภาคยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางแห่งองค์การสหประชาชาติ

มิเคล คาซัทช์คิเน ผู้แทนพิเศษด้านเอดส์ประจำภูมิภาคยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางแห่งองค์การสหประชาชาติ

“ประการแรก ที่ตรงนี้เป็นภูมิภาคที่จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีกำลังขยายตัว และประการที่สองแล้วเอดส์ในภูมิภาคนี้แพร่ระบาดในหมู่ผู้เสพยาเป็นส่วนใหญ่”

ในการบำบัดแบบ OST นั้นจะมีการให้เมทาโดนแก่ผู้ติดยาเพื่อลดความอยากเฮโรอีน รวมทั้งให้บิวพรีนอร์ฟีนเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการลงแดง ตามคำสั่งของแพทย์

ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่าการบำบัดแบบ OST ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากองค์การอนามัยโลก (WHO) นั้นเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาการติดเฮโรอีนได้อย่างยอดเยี่ยม โดยจะช่วยดึงผู้ติดยาออกจากพฤติกรรมการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการค้าประเวณี ที่เป็นช่องทางแพร่เชือเอชไอวี

เมื่อครั้งที่ไครเมียยังอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน ผู้ติดยาในดินแดนนี้ได้รับการบำบัดรักษาแบบ OST ทว่า กฎหมายของรัสเซียห้ามไม่ให้ใช้แนวทางบำบัดลักษณะนี้ เป็นผลให้ผู้ติดยาในไครเมียขาดการเข้ารับการบำบัดไปนับตั้งแต่มอสโกผนวกไครเมียเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว คนจำนวนมากหันไปใช้ยาเสพติดชนิดรุนแรง หรือฆ่าตัวตาย

ในหมู่ประชาชน 805 คนที่เข้าร่วมโครงการบำบัดด้วยวิธี OST ในไครเมีย พบว่ามีมากกว่า 200 คนติดเชื้อเอชไอวี องค์กรเอ็นจีโอ “อินเตอร์เนชันแนล เอชไอวี/เอดส์ อลิอันซ์” ในยูเครนระบุ