ความผันผวนในยูเครน ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น แต่ภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ผันผวน กดดันราคาทองให้อ่อนค่าลง เนื่องจากจีนเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของโลก
“วายแอลจี” ระบุสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนยังคงส่งผลบวกต่อราคาทองคำ แต่ความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวในปีนี้ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการที่ 7.5 % ยังส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไร เบื้องต้น วายแอลจี ประเมินว่าหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำยังมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หรือ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากยังไม่สามารถยืนเหนือระดับจิตวิทยาดังกล่าวอย่างมั่นคง นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขาย และการย่อตัวของราคาทองคำ
จึงแนะนำการลงทุน ว่า ถ้าราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง และไม่หลุดแนวรับนักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะสั้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,290-1,287 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ หากยืนได้ราค่าจะเกิดแรงซื้อตามให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,315 หรือ 1,325 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,277 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ดังที่กล่าวไปข่างต้น วายแอลจี มองว่าการที่เศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะอ่อนแอมานานหลายเดือน และอาจมีผลกระทบต่อแรงบริโภคทองคำให้อ่อนแอตาม เนื่องจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงทุนตั้งความหวังว่า จีนอาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในขณะที่ยังไม่มีมาตรการออกมาอย่างชัดเจน ประกอบกับความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวในปีนี้ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการที่ 7.5% ยังส่งผลให้เมื่อราคารทองคำมีการปรับตัวขึ้นมีแรงขายทำกำไรออกมา
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย และชาติตะวันตกย่ำแย่ลง จากการก่อกบฏในยูเครน รวมถึงการผนวกดินแดนไครเมียเข้ามาเป็นของตนเอง ซึ่งรัฐบาลรัสเซีย ก็ได้ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ด้วยการขัดขวางโครงการด้านอวกาศ ซึ่งรวมถึงการปฏิเสธที่จะต่ออายุสถานีอวกาศระหว่างประเทศ ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย เป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำ ขณะที่ในระยะสั้นความผันผวนของสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน ยังคงส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เมื่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียซุ่มโจมตีกองทัพยูเครน และสังหารทหารไป 7 นาย ซึ่งถือเป็นการสูญเสียชีวิตครั้งใหญ่สำหรับกองทัพยูเครน นับตั้งแต่รัฐบาลยูเครนส่งทหารไปปราบปรามกลุ่มกบฏในภาคตะวันออกของประเทศ
พร้อมกันนี้ วายแอลจีได้สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 พฤษภาคม 2557 ว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,302.10-1,291.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM14 อยู่ที่ 20,100 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,120 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVM14 อยู่ที่ 630 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 630 บาท (หมายเหตุ : ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.30 น. ของวันที่ 14/05/14)