เอเจนซีส์ - “ออกซ์แฟม” องค์กรเอกชนชื่อดังด้านการรณรงค์ต่อสู้กับความยากจน เผยรายงานฉบับใหม่ในวันจันทร์ (19 ม.ค.) ระบุกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุด 1เปอร์เซ็นต์แรกของโลกจะมีทรัพย์สินและความมั่งคั่งรวมกัน คิดเป็นสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของความมั่งคั่งรวมของโลกภายในปี 2016 ชี้คนรวยมีแนวโน้มจะร่ำรวยยิ่งขึ้น สะท้อนช่องว่างแห่งความไม่เท่าเทียมยิ่งแผ่ขยายกว้างขึ้น
รายงานเชิงวิเคราะห์ของออกซ์แฟมซึ่งใช้ข้อมูลจากสถาบันการเงินชื่อดังอย่าง “เครดิต สวิส” รวมถึงข้อมูลจากการจัดอันดับของนิตยสาร “ฟอร์บส์” ของสหรัฐฯ ระบุว่า ในขณะนี้คนรวยที่สุด 1 เปอร์เซ็นต์แรกของโลก มีทรัพย์สินรวมกันคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง “48 เปอร์เซ็นต์” ของความมั่งคั่งของทั้งโลก และหากแนวโน้มยังดำเนินเช่นนี้ต่อไป ก็เป็นที่คาดว่าคนรวยที่สุด 1 เปอร์เซ็นต์ดังกล่าวจะครอบครองความมั่งคั่งรวมกัน “ทะลุ 50 เปอร์เซ็นต์” หรือ “เกินครึ่งหนึ่ง” ของยอดความมั่งคั่งรวมของโลกภายในปี 2016
ขณะเดียวกัน ข้อมูลล่าสุดยังพบว่า บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด 80 อันดับแรกของโลกในปัจจุบัน ครอบครองทรัพย์สินรวมกันกว่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับรายได้ของคนยากคนจนถึง “3,500 ล้านคน” ทั่วโลกรวมกัน
นอกจากนั้น ในจำนวนคนรวยที่สุด 80 คนของโลกนั้น ปรากฏว่ามีชาวอเมริกันติดโผมากที่สุดถึง 35 คน ตามมาด้วยชาวเยอรมันและรัสเซียชาติละ 7 คน ถือเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงปัญหา “การกระจุกตัวของความมั่งคั่ง” ซึ่งเป็นปัญหาที่นับวันจะยิ่งแก้ไขได้ยากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ รายงานล่าสุดซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่เท่าเทียมและช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนยากจนของโลก ที่ถูกเผยแพร่โดยองค์กรออกซ์แฟมในคราวนี้ยังระบุว่า ในปัจจุบันยังคงมีประชากรโลกอีกมากกว่า 1,000 ล้านคน ที่ยังคงต้องดำรงชีวิตอย่างยากลำบากและมีรายได้เลี้ยงปากท้องวันละไม่ถึง 1.25 ดอลลาร์ (ราว 41 บาทต่อวัน)
