เอเอฟพี - กระทรวงการต่างประเทศแดนอาทิตย์อุทัยเปิดเผยวันนี้ (15 ม.ค.) ว่าญี่ปุ่นได้ขอให้สำนักพิมพ์เจ้าใหญ่ของสหรัฐฯ “แก้ไข” ตำราเรียนฉบับหนึ่งซึ่งมีการพูดถึงทาสบำเรอกามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่โตเกียวกำลังผลักดันให้มีการขัดเกลารายละเอียดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่เสนอผ่านมุมมองของชาวต่างชาติ
บรรดานักการทูตได้ยื่นคำร้องให้สำนักพิมพ์ “แม็กกรอว์-ฮิลล์” แก้ไขบทความในตำราเรียนอเมริกันที่กล่าวถึง “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” ซึ่งเป็นคำสุภาพที่หมายถึงหญิงผู้ถูกบีบบังคับให้ทำงานเป็นนางบำเรอในซ่องโสเภณีของกองทัพแดนซามูไร
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุในถ้อยแถลง ที่หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัลนำออกตีพิมพ์เผยแพร่ว่า “เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งคำร้องผ่านสถานเอกอัครราชทูตในต่างแดน เพื่อขอให้ผู้บริหารสำนักพิมพ์แม็กกรอว์-ฮิลล์ แก้ไขเนื้อหาของตำราที่มีชื่อว่า “Traditions & Encounters : A Global Perspective on the Past” (ประเพณีและการเผชิญหน้า: ทัศนะในอดีตจากทั่วโลก)
พวกเขาทำเช่นนี้ “เนื่องจากตรวจพบข้อผิดพลาดร้ายแรง รวมทั้งคำอธิบายที่ขัดแย้งกับจุดยืนของประเทศเราในประเด็น “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย”
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้มีจุดยืนชาตินิยมได้เดินหน้าแก้ไขสิ่งที่รัฐบาลมองว่าเป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างผิดพลาด
อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์กระแสหลักต่างเห็นพ้องต้องกันว่า สตรีราว 200,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลี ขณะที่มีบางส่วนมาจากจีน ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ ล้วนแล้วแต่ถูกบีบบังคับให้เป็นทาสกามารมณ์ของทหารญี่ปุ่น ผ่านระบบทาสที่มีระเบียบแบบแผน
อย่างไรก็ตาม พวกชาตินิยมในญี่ปุ่นได้ยกข้อโต้แย้งประเด็นนี้ว่า สตรีที่อยู่ในซ่องทหารประกอบอาชีพเป็นโสเภณีอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งยืนกรานว่า ทั้งรัฐและกองทัพญี่ปุ่นไม่ได้มีส่วนในการบีบบังคับสตรีให้เป็นทาสโดยไม่สมัครใจ
ทางด้าน แม็กกรอว์-ฮิลล์ เอดูเคชัน ยืนยันว่า “รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งตัวแทนมาพบ” พวกเขา “พร้อมทั้งขอให้บริษัทเปลี่ยนคำนิยามของ 'สตรีเพื่อความผ่อนคลาย' ในตำราเล่มหนึ่งของเรา” วอลสตรีทเจอร์นัลรายงาน
บริษัทนี้กล่าวว่า “ประเด็น “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” นั้นเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยืนยันจากบรรดานักวิชาการ และเราสนับสนุนงานเขียน งานวิจัย และสิ่งที่นักเขียนของเราได้นำเสนอออกไปโดยปราศจากความเคลือบคลุมสงสัยใดๆ ”
แม้ว่าการส่งตัวแทนไปพบสำนักพิมพ์ต่างชาตินั้นเป็นการกระทำที่ดูผิดปกติวิสัย แต่ในเวลานี้กำลังโตเกียวกำลังถูกกดดันหนักจากพวกชาตินิยมในประเทศที่ต้องการให้มีการตีความประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นใหม่