xs
xsm
sm
md
lg

โลกมุสลิมประท้วงภาพปกล่าสุดของชาลีเอ็บโด – มุสลิมปินส์ถึงขั้นเผาป้ายรูปเนทันยาฮู “ประกาศ 2 มาตรฐานในโลกตะวันตกมีจริง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - หลังปรากฏการณ์ให้กำลังใจฝรั่งเศส รวมไปถึงนิตยสารชาลี เอ็บโดฉบับล่าสุดพิมพ์มียอดการพิมพ์ 5 ล้านฉบับ แต่ในทางตรงกันข้าม #noapology ว่อนทั่วโลกมุสลิม ที่ไม่พอใจเสรีภาพความคิดโลกตะวันตกที่ใช้อารมณ์ขันมาล้อเลียนศาสดาศาสนาอิสลามในภาพปกล่าสุดถึงขั้นผู้ประท้วงชาวมุสลิมในฟิลิปปินส์รวมตัวเผาป้ายที่มีรูปนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ติดอยู่ ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์สังหารหมู่หลังเหตุบุกยึดโคเชอร์มาร์เกตในชุมชนยิว ชานเมืองกรุงปารีสเกิดขึ้น และแพทย์คูเวตเตือนว่า ชีวิตอยู่ในความเสี่ยงหากยังทำให้กลุ่มก่อการร้ายกระหายเลือดโกรธ หลังความกลัวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสจะเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความรุนแรง ที่โบโกฮารัมประกาศ “รู้สึกยินดีที่เห็นเหตุหายนะเกิดขึ้นกับพลเมืองแดนน้ำหอม”

เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(15)ว่า จากการที่นิตยสารชาลี เอ็บโดตัดสินใจนำภาพศาดา นบีมูฮัมหมัดขึ้นปกล่าสุด และมียอดการพิมพ์ถึง 5 ล้านฉบับ ทำการทำให้โลกมุสลิมต่างกล่าวว่าเป็นการจุดไฟความเกลียดชังให้ปะทุอีกครั้ง โดยน่าปกฉบับล่าสุดนั้นเป็นรูปศาสดาศาสนาอิสลามกำลังเช็ดน้ำตา ในขณะที่ถือป้ายมีข้อความว่า “ผมชื่อชาลี” และข้อความ “ทุกสิ่งได้รับการอภัย” นั้นปรากฏเหนือรูปศาสดาอิสลาม

แต่จากความเชื่อของศาสนาอิสลามที่ห้ามไม่ให้มีรูปภาพของศาสดาปรากฏ ซึ่งทำให้โลกมุสลิมต่างไม่พอใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ จากเหตุบุกเข้ายิงนักข่าวในสำนักงานชาลี เอ็บโด มีคนจำนวนมากรู้สึกร่วมกับการสูญเสีย แต่มีอีกหลายคนที่หวั่นว่าจะเป็นการเริ่มต้นเหตุความรุนแรงครั่งต่อไปในวิกฤตทางความเชื่อทางศาสนา

ฮาหมัด ฮัลฟาร์ฮาน (Hamad Alfarhan) แพทย์ชาวคูเวตวัย 29 ปีให้ความเห็นว่า “คุณกำลังทำให้ชีวิตของคนจำนวนมากตกอยู่ในอันตรายเมื่อคุณกำลังแหย่กลุ่มก่อการร้ายที่กระหายเลือดและบ้าคลั่ง” และในฟิลิปปินส์ มีการรวมตัวของชาวมุสลิมจำนวนมากเนื่องจากภาพปกหน้าหนึ่งของนิตยสารฝรั่งเศสฉบับเป็นข่าว และกล่าวว่านี่เป็นการแสดงสองมาตรฐานของโลกตะวันตก

ป้ายผู้ประท้วงในมาราวี ฟิลิปปินส์ แสดงข้อกล่าวหาในความเป็นสองมาตรฐานของโลกตะวันตกที่เพิกเฉยต่อการเสียชีวิตของชาวมุสลิม โดยกล่าวว่า “คุณคือชาลี และเรารักมูฮัมหมัด” และหนึ่งในป้ายของผู้ประท้วง มีรูปภาพนากยกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งภายหลังถูกเหล่าผู้ประท้วงเผาไฟ พร้อมป้ายที่กล่าวว่า “ไม่มีการขออภัยจากโลกมุสลิมสำหรับมาตกรรมหมู่ปารีส”

ทั้งนี้สื่ออังกฤษชี้ว่า ผู้นำอิสราเอลกลายเป็นสัญลักษณ์ในเหตุก่อการร้ายปารีสหลังจากชาวยิวในฝรั่งเศสเสียชีวิตโดยฝีมือของผู้ก่อการร้ายคนที่ 3 ที่โคเชอร์ เดลีมาร์เก็ต หลังเกิดเหตุบุกยิงนักข่าวที่สำนักงานนิตยสารชาลี เอ็บโด

และกลุ่มติดอาวุธโบโกฮารัมได้ส่งสัญญาณแสดงความยินดีในเหตุก่อการร้ายที่ฝรั่งเศส “เรารูสึกยินดีและปิติอย่างแท้จริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส อาบูบาการ์ เชเกา หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธโบโกฮารัมแถลงผ่านวิดีโอคลิป และเสริมว่า “เรารูสึกปิติต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับพลเมืองฝรั่งเศสจากการที่เลือดของพวกเขาได้หลั่งบนแผ่นดินฝรั่งเศส จากความพยายามของพวกเขาที่จะป้องกันพวกเขาเอง”

นอกจากนี้กลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูดในจอร์แดนได้เดินบนถนนประท้วงหลังจากสิ้นสุดการเข้ามัสยิดในวันศุกร์(10)ในเมืองหลวงของประเทศเพื่อแสดงความไม่พอใจในรูปภาพปกชาลี เอ็บโดต้นเรื่อง โดย  Murad Adaileh โฆษกกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูดในจอร์แดนให้ความเห็นว่า ทางกลุ่มขอประนามอย่างรุนแรงต่อเหตุบุกโจมตีของคนร้ายทั้งสองครั้งในฝรั่งเศส รวมไปถึงภาพหน้าปกเสียดสีศาสดาศาสนาอิสลาม

ในขณะที่รัฐบาลอิหร่านกล่าวไม่เห็นด้วยในการกระทำของคนร้ายโจมตีฝรั่งเศส แต่โมฮัมเหม็ด จาวา ซารีฟ (Mohammed Javad Zarif )รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กลับให้ความเห็นว่า “ในโลกที่มีวัฒนธรรมความแตกต่างอย่างมาก สิ่งที่คนกราบไว้สมควรที่คนอื่นต้องให้ความเคารพ เพราะผมคิดว่า โลกนี้จะสงบมากขึ้นหากเรามีการพูดจาอย่างจริงจัง พูดคุยถึงความแตกต่าง และจากนั้นเราจะหาจุดยืนร่วมกันซึ่งในภายหลังจะพบว่าสิ่งนั้นยิ่งใหญ่มากกว่าสิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง”

ตุรกีที่มีการละเมิดเสรีภาพทางสื่อโดยรัฐมากที่สุดในประเทศหนึ่ง แต่กระนั้นสื่อตุรกีตัดสินใจตีพิมพ์ภาพการ์ตูนของนิตยสารชาลี เอ็บโด ซึ่งเป็นหนึ่งเพียงไม่กี่ชาติมุสลิมที่กระทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตามตำรวจเติร์กได้หยุดรถบรรทุกที่เพิ่งเดินทางออกจากโรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ Cumhuriyet หลังจากสื่อแห่งนี้ประกาศการตัดสินใจที่จะตีพิมพ์เผยแพร่ภาพบางส่วนของชาลี เอ็บโด แต่ตำรวจในพื้นที่ยอมอนุญาตให้รถบรรทุกสามารถผ่านออกไปได้หลังตรวจพบว่า ไม่มีรูปศาสดานบีมูฮัมหมัดปรากฏ ซึ่งตำรวจตุรกีได้ตรึงกำลังที่หน้าสำนักพิมพ์Cumhuriyet รวมไปถึงหน้าสำนักงานของสื่อเติร์กฉบับนี้เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น



กำลังโหลดความคิดเห็น