เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- “รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์” สถาบันการเงินชั้นนำของยุโรป ตกเป็นข่าวในวันอังคาร (13 ม.ค.) เตรียม “ยกธงขาว” ถอนตัวออกจากการดำเนินธุรกิจทุกประเภทในทวีปเอเชีย พร้อมปลดพนักงานหลายพันตำแหน่ง อ้างเหตุผล “ต้องการกลับสู่จุดเริ่มต้น” ด้วยการโฟกัสให้ความสำคัญเฉพาะธุรกิจในสหราชอาณาจักรเท่านั้น
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า รอสส์ แม็คอีแวน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (อาร์บีเอส) ได้ยืนยันระหว่างการเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่สิงคโปร์ ถึงแผนปรับลดขนาดขององค์กรด้วยการขายกิจการทั้งหมดของอาร์บีเอสที่อยู่ในทวีปเอเชีย และเตรียมปรับโฟกัสหันกลับไปให้ความสำคัญ กับการดำเนินธุรกิจใน สหราชอาณาจักรเป็นหลัก
ท่าทีล่าสุดของซีอีโอรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์มีขึ้นหลังจากสถาบันการเงินเก่าแก่ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1727 และมีฐานอยู่ในแคว้นสกอตแลนด์แห่งนี้ ประสบภาวะการขาดทุนต่อเนื่องนานถึง 6 ปีเต็มในระหว่างปี 2008-2014 และกลายเป็นปัจจัยเชิงลบที่บีบให้รัฐบาลเมืองผู้ดี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สัดส่วนร้อยละ 79 จำเป็นต้องเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งครอบคลุมถึง “การหันหลังให้กับเอเชีย”
ในเบื้องต้นมีการยืนยันว่า ทางอาร์บีเอสมีแผนปลดพนักงานของตนในเอเชียอย่างน้อย 2,000 คนออก ก่อนที่จะขายทิ้งกิจการและทรัพย์สินต่างๆของตนในเอเชียให้กับผู้ที่สนใจต่อไป
ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีรายงานว่า ทางอาร์บีเอสเพิ่งประกาศปิดสำนักธุรกิจของตนในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นมาแล้ว เพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กร และเริ่มมีการดึงตัวบุคลากรระดับสูงบางส่วนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กลับไปประจำที่สาขาในสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปมีอันต้องประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนักและประสบภาวะ “หนี้เน่าท่วมสูง” จนต้องของรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอังกฤษเมื่อปี 2008 ในวงเงิน 45,000 ล้านปอนด์ (ราว 2.24 ล้านล้านบาท)