เอเจนซีส์ - บริษัทไมโครซอฟท์รายงานว่า กำไรในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ได้ตกลงมา 7% จากปัญหาการขาดทุนถึง 692 ล้านดอลลาร์ของแผนกโทรศัพท์คลื่อนที่โนเกียที่ได้ควบรวมในเดือนเมษายนล่าสุด
ไมโครซอฟท์เปิดเผยเมื่อวานนี้(22)ว่า กำไรของบริษัทในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน 2014 อยู่ที่ 4.6 พันล้านดอลลาร์ เปรียบเทียบกับในระยะเวลาเดียวกันปี 2013 สามารถทำกำไรได้ 4.97 พันล้านดอลลาร์
และบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯpy'ยอมรับว่า จากปัญหาการขาดทุนในโนเกียถึง 692 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้กำไรของบริษัทลดลง
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ประกาศแผนปลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง ถือเป็นเป็นการปลดคนงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 39ปี ของบริษัท และจากตำแหน่งทั้งหมดที่อยู่ในแผนเลิกจ้าง อยู่ในส่วนโนเกียถึง12,500 ตำแหน่ง
“เรากำลังเพิ่มการเติบโตไปพร้อมกับการตัดสินใจที่รัดกุม และการก้าวกระโดดด้านนวัตกรรม รวมถึงเป้าหมายเชิงบริหาร” ซัสยา นาเดลลา( Satya Nadella) ประธานบริหารของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเปิดแถลง โดยทางไมโครซอฟท์ตั้งเป้าในการสร้างผลกำไรจากธุรกิจคลาวด์คอมพิวเตอร์ ที่นาเดลลาคาดว่าจะทำรายได้เป็น 2 เท่าหรือ ราว 4.4 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
ราคาหุ้นของไมโครซอฟท์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหลังทำการของตลาดหุ่นวอลสตรีท สหรัฐฯ ถึงแม้จะมีมูลค่าหุ้นปรับสูงขึ้น 20% ในปีนี้จากการที่เหล่านักลงทุนตั้งความหวังว่าซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์จะสามารถพลิกฟื้นครั้งใหญ่แก่ไมโครซอฟท์ได้
ในสัปดาห์ที่แล้ว นาเดลลาให้สัมภาษณ์ถึงแผนการปลดพนักงานว่า เป็นผลมาจากการควบรวมบริษัทโนเกียและยังต้องการให้ไมโครซอฟท์หันทิศทางมุ่งไปยังธุรกิจคลาวด์คอมพิวเตอร์แทนที่จะยังติดอยู่กับธุรกิจระบบปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ต่อไป
ธุรกิจคลาวด์คอมพิวเตอร์นั้นให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงซอฟท์แวร์ และสตอเรจ (storage) ในแพคเก็จที่ยืดหยุ่นในรูปแบบการเช่า มากกว่าที่ทางบริษัทลูกค้าจะต้องลงทุนในอุปกรณ์ราคาแพงเหล่านี้ด้วยตัวเอง
อนึ่งการปรับลดตำแหน่งงานของไมโครซอฟท์ล่าสุดมีสัดส่วนสูงกว่า 14% ของจำนวนพนักงานบริษัททั้งหมดราว 127,000 คน ซึ่งการปรับลดครั้งนี้คิดเป็นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เช่น บริษัทแอปเปิล
