เอเอฟพี – บัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวหาอินเดียว่าส่งเสริมการไม่ยอมรับความแตกต่างด้วยการห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชาวรักร่วมเพศ ในขณะที่มีเสียงฮือฮาในเรื่องแผนการของรัฐมนตรีคนหนึ่งจากพรรครัฐบาลที่จะทำให้คนรักร่วมเพศกลับเป็น “ปกติ”
ในคำกล่าวขณะเยือนกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย บัน กล่าวว่า เขา “คัดค้านการทำให้การรักร่วมเพศเป็นความผิดทางอาญาอย่างหนักแน่น” โดยข้อห้ามดังกล่าวมาจากกฎหมายสมัยอาณานิคมของแดนภารตะที่ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชาวรักร่วมเพศ
“ผมภาคภูมิที่จะยึดมั่นหลักความเท่าเทียมของคนทุกคน รวมถึงเหล่าผู้ที่เป็นเลสเบี้ยน , เกย์ , ไบเซ็กชวล และคนข้ามเพศ” เลขาธิการยูเอ็นกล่าวในถ้อยแถลงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12)
“ผมต้องออกมาพูดเพราะว่ากฎหมายที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันที่เกิดจากความสมัครใจและบรรลุนิติภาวะแล้วเป็นสิ่งผิดกฎหมายเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานต่อความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพจาการเลือกปฏิบัติ แม้ว่ากฎหมายนี้จะไม่ถูกบังคับใช้ แต่ก็ทำให้เกิดการไม่ยอบรับความแตกต่างของผู้อื่น”
ศาลสูงอินเดียบังคับใช้การห้ามมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชาวรักร่วมเพศอีกครั้งเมื่อช่วงปลายปี 2013 โดยตัดสินว่าความรับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายปี 1861นั้นเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภานิติบัญญัติไม่ใช่ผู้พิพากษา
การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชาวรักร่วมเพศถูกทำให้ถูกต้องตามกฎหมายในปี 2009 หลังจากศาลสูงเดลีตัดสินว่า การห้าม “การร่วมเพศที่ขัดต่อการจัดระเบียบของธรรมชาตินั้น” เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
การแสดงความเห็นของ บัน มีขึ้นในวันเดียวกันกับที่รัฐมนตรีประจำรัฐคนหนึ่งจากพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นเรทรา โมดี แห่งอินเดียประกาศแผนของเขาที่จะทำให้ชาวรักร่วมเพศกลับเป็น “ปกติ” ในรัฐโคอา รัฐตากอากาศริมชายฝั่งของแดนภารตะ
ราเมช ทาวัดการ์ รัฐมนตรีกิจการกีฬาและเยาวชนในรัฐบาลรัฐโคอา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขามีแผนที่จะเปิดศูนย์ในแบบเดียวกับศูนย์เลิกเหล้าเพื่อทำการรักษาพวกเขา
“เราจะทำให้พวกเขาเป็นปกติ เราจะมีศูนย์สำหรับพวกเขา เหมือนอย่างศูนย์เลิกเหล้า” ทาวัดการ์ กล่าว และเสริมว่า ทางรัฐจะ “อบรมและให้ยาพวกเขาด้วยเช่นกัน”
ทาวัดการ์ สมาชิกของพรรคภารติยะชนตะ (บีเจพี) ของโมดี ได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวหลังจากปล่อยนโยบายของรัฐแห่งนี้เกี่ยวกับประเด็นด้านเยาวชน ซึ่งกำหนดชาวเลสเบี้ยน , เกย์ , ไบเซ็กซวล และคนข้ามเพศ ไว้เป็นกลุ่มมีมลทินที่มีความจำเป็นต้องใส่ใจดูแล
ความคิดเห็นของเขานำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายและคำเย้ยหยันจากกลุ่มสิทธิเกย์และสื่อสังคมออนไลน์
“ต้องมีใครสักคนจากระดับสูงกว่าจากพรรคบีเจพีที่จะต้องออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะว่าการที่พวกคุณปิดปากไม่พูดถึงบางคนที่ออกถ้อยแถลงอันไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ นั่นเท่ากับว่าพวกคุณยอมรับจริงๆ” ฮาริช ไอเยอร์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ บอกกับช่องข่าว เอ็นดีทีวี