เอเจนซีส์ - กระทรวงคมนาคมอิเหนาสั่งเอาผิดผู้ที่ปล่อยให้เที่ยวบิน 8501 ของแอร์เอเชียขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งรวมถึงการพักงานผู้ดำเนินการสนามบินและเจ้าหน้าที่หอควบคุม ขณะที่เรือตรวจการณ์อินโดนีเซียพบชิ้นส่วนซึ่งเชื่อว่า เป็นส่วนหางของเครื่องบินที่มีกล่องดำติดตั้งอยู่
ดิโจโค มูร์จัตมอดโจ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่การคมนาคมทางอากาศ แถลงในวันจันทร์ (5 ม.ค.) ว่า จะทำการตรวจสอบใบอนุญาตและตารางบินของสายการบินทั้งหมดที่ให้บริการในอินโดนีเซีย เพื่อดูว่า มีการละเมิดกฎระเบียบหรือไม่
ทั้งนี้ ในวันที่เครื่องแอร์บัส เอ320 เที่ยวบิน 8501 ของแอร์เอเชียอินโดนีเซีย ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเลชวาก่อนถึงจุดหมายที่สิงคโปร์ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คนนั้น เป็นวันอาทิตย์ (28 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สายการบินแห่งนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้บินในเส้นทางดังกล่าว
มูร์จัตมอดโจย้ำว่า แอร์เอเชียอินโดนีเซียซึ่งเป็นกิจการในเครือของแอร์เอเชีย ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมาเลเซีย กระทำความผิดเต็มประตู และกำลังเร่งสอบสวนว่า เหตุใดสายการบินแห่งนี้จึงสามารถใช้ตารางบินที่ไม่ได้รับอนุญาตนานถึง 3 เดือนโดยที่กระทรวงคมนาคมไม่ระแคะระคายเลย
ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียได้ประกาศเมื่อวันเสาร์ (3) ห้ามเที่ยวบินทั้งหมดของสายการบินแห่งนี้ที่ให้บริการในเส้นทางระหว่างสุราบายา-สิงคโปร์ แม้เดิมได้รับอนุญาตให้บินในวันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ก็ตาม
มูร์จัตมอดโจเสริมว่า กระทรวงคมนาคมยังออกคำสั่งลงวันที่ 31 ธันวาคม ให้สายการบินทุกแห่งจัดเตรียมรายงานสภาพอากาศล่าสุดให้แก่นักบินก่อนนำเครื่องขึ้น จากปัจจุบันซึ่งนักบินที่ 1 และนักบินที่ 2 จะเป็นผู้ค้นหาข้อมูลและประเมินสภาพการบินเองก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้สำหรับวิธีปฏิบัติในประเทศอื่นๆ จำนวนมากนั้น แผนกปฏิบัติการการบินของสายการบินจะรับผิดชอบเรื่องนี้
ในอินโดนีเซียนั้น หลังจากผ่อนคลายกฎในอุตสาหกรรมการบินเมื่อทศวรรษ 1990 ก็มีสายการบินนับสิบแห่งแจ้งเกิด และทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถใช้บริการเดินทางทางอากาศเป็นครั้งแรก ทว่า อุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งในระยะหลังๆ กระตุ้นให้เกิดคำถามเร่งด่วนเกี่ยวกับความปลอดภัย โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า พวกสายการบินแดนอิเหนาจำนวนมากมีปัญหาตั้งแต่การซ่อมบำรุงด้อยประสิทธิภาพ ความย่อหย่อนในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการขาดแคลนบุคลากรมืออาชีพที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม
สำหรับแอร์เอเชียที่เริ่มให้บริการในปี 2001 และกลายเป็นผู้นำสายการบินต้นทุนต่ำในภูมิภาคไปอย่างรวดเร็ว ไม่เคยประสบอุบัติเหตุถึงขั้นเลือดตกยางออกมาก่อน และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการระดับมืออาชีพ
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้แน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้เที่ยวบิน 8501 ตกหลังออกจากสนามบินสุราบายา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอินโดนีเซีย เพียง 42 นาที ในเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง โดยก่อนที่เครื่องบินแอร์บัสลำนี้จะขาดการติดต่อ นักบินได้ขออนุญาตเพิ่มระดับการบินหลีกเลี่ยงกลุ่มเมฆฝนหนาทึบ แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศ เนื่องจากขณะนั้นการจราจรบริเวณนั้นค่อนข้างหนาแน่น
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียได้ประเมินเบื้องต้นจากภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงให้เห็นว่า เครื่องบินบินผ่านกลุ่มเมฆที่มีอุณหภูมิติดลบ 80-85 องศา จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีน้ำแข็งเกาะอุปกรณ์สำคัญต่างๆ กระทั่งเครื่องยนต์เสียหาย
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดเครื่องบินลำอื่นที่บินในเส้นทางเดียวกันนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ และนักวิเคราะห์หลายคนทักท้วงว่า ยังมีข้อมูลไม่เพียงพออธิบายสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้จนกว่าจะพบกล่องดำ
นับจากที่เครื่องบินหายไป ปฏิบัติการค้นหาครั้งใหญ่ของนานาชาติก็เริ่มต้นขึ้น และจนถึงขณะนี้พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 37 ราย โดย 3 รายหลังสุดพบในวันจันทร์ ขณะที่ระบบโซนาร์ตรวจพบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ 5 ชิ้นที่เชื่อว่า เป็นของเครื่องบินลำนี้
นักประดาน้ำพยายามดำลงไปค้นหาวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว ทว่า ทั้งกระแสน้ำเชี่ยวกรากและโคลนตมใต้น้ำ ทำให้ยังไม่สามารถลงไปเก็บกู้วัตถุเหล่านั้นได้
เมื่อวันจันทร์ ยายัน ซอฟยัน ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ลำหนึ่งของกองทัพเรืออินโดนีเซียระบุว่า ได้พบวัตถุซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นส่วนหางของเครื่องบิน โดยที่ส่วนหางนี้เองเป็นส่วนที่ติดตั้งกล่องดำและเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน อย่างไรก็ดี สำนักงานค้นหาและกู้ภัยอินโดนีเซียยังไม่ยืนยันเรื่องนี้
เอส.บี. ซูปรียาดี จากสำนักงานค้นหาและกู้ภัยเผยว่า ปฏิบัติการค้นหาซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศ รวมถึงอเมริกาและรัสเซียด้วย จะขยายพื้นที่ออกไปทางตะวันออกภายใต้สมมติฐานที่ว่า กระแสน้ำไหลเชี่ยวได้พัดพาชิ้นส่วนกระจัดกระจายออกไป
ขณะเดียวกัน ครอบครัวเหยื่อเฝ้ารออย่างอดทนกับกระบวนการค้นหาอันล่าช้า ด้วยความกลัวว่า จะไม่มีวันได้พบร่างบุคคลอันเป็นที่รักครั้งสุดท้าย
ทางด้านพลเอกโมลโดโค ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย แถลงในวันจันทร์ ทางกองทัพเตรียมจัดเครื่องบิน 2 ลำ และเรือรบ 1 ลำเพื่อนำญาติผู้เสียชีวิตไปโปรยดอกไม้และกล่าวคำอำลาในบริเวณที่เชื่อว่าเครื่องบินตก