เอพี/รอยเตอร์ - เกือบหนึ่งสัปดาห์ของปฏิบัติการค้นหาเหยื่อแอร์เอเชียเที่ยวบิน 8501 ทีมกู้ภัยที่บากบั่นไม่ย่อท้อต่อพายุก็พบกับวันที่ประสบความสำเร็จที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นมาในวันศุกร์ (2 ม.ค.) หลังจากสามารถดึงร่างไร้วิญญาณขึ้นมาจากทะเลชวาได้เพิ่ม 3 เท่าและบางส่วนศพอยู่ในสภาพที่ยังติดอยู่กับที่นั่ง
สำนักข่าวเอพีอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า ปฏิบัติการค้นหาเที่ยวบิน QZ8501 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1,575 ตารางไมล์ทะเล ทางเหนือของทะเลชวา จนถึงตอนนี้สามารถเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว 30 ศพ จำนวนนั้น 21 ศพเป็นการพบในวันศุกร์ (2 ม.ค.) เช่นเดียวกับชิ้นส่วนแตกหักต่างๆ ของเครื่องบิน
เครื่องบินแอร์บัสเอ320 บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คน ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันอาทิตย์ (28 ธ.ค.) ราวครึ่งทางขณะกำลังมุ่งหน้าจากเมืองสุราบายาของอินโดนีเซียสู่สิงคโปร์ โดยไม่กี่นาทีก่อนขาดการติดต่อ นักบินแจ้งกับหอควบคุมการบินว่ามีกลุ่มเมฆจับตัวหนาอยู่ข้างหน้า แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไต่ระดับความสูง สืบเนื่องจากการจราจรทางอากาศที่หนาแน่น
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่มันถือเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกของสายการบินแอร์เอเชียนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในปี 2011 ก่อนเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสายการบินต้นทุนต่ำยอดนิยมที่สุดของภูมิภาค
ในการมองหาศพเหยื่อเพิ่มเติม นายเฮนรี บัมบัง โซลิสต์โย ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและช่วยชีวิตแห่งชาติของอินโดนีเซีย บอกว่าเรือจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์และสหรัฐฯ พยายามสอดส่องลงไปที่ก้นทะเลเพื่อหาตำแหน่งของเศษซากเครื่องบินและกล่องดำซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะเผยถึงสาเหตุของหายนะครั้งนี้
กล่องดำหรือกล่องบันทึกข้อมูลการบิน จะบรรจุข้อมูลที่สำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิเครื่องยนต์ ระดับความเร็วทั้งแนวดิ่งและแนวนอน บันทึกการสนทนาระหว่างนักบินและเสียงอื่นๆ ภายในห้องนักบิน
แอนโทเนียส ทูส ซานนิติโอโซ หน่วยสืบสวนความปลอดภัยทางอากาศของสำนักงานช่วยเหลือและค้นหา บอกว่าคณะสืบสวนกำลังตรวจสอบทุกแง่มุม เพื่อหาความจริงว่าทำไมเครื่องบินถึงโหม่งโลก “ไม่ว่าจะเป็นด้านปฏิบัติการ ปัจจัยทางมนุษย์ ปัจจัยทางเทคนิคและหอบังคับการบิน ทุกอย่างล้วนมีค่าสำหรับเรา”
สภาพอากาศเลวร้ายที่ฉุดรั้งความพยายามค้นหาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ยังคงน่ากังวล โดยในตอนเช้าวันศุกร์ (2 ม.ค.) มีฝนตกปรอยๆลงมาและก้อนเมฆบางๆปกคลุมพื้นที่ ท่ามกลางคำพยากรณ์ว่าจะมีฝนตก ลมกระโชกและคลื่มทะเลสูงถึง 4 เมตรไปจนถึงวันอาทิตย์ (4 ม.ค.) ขณะที่กระแสน้ำทะเลที่รุนแรงอาจซัดให้เศษซากของเครื่องบินและศพผู้เสียชีวิตลอยกระจัดกระจายออกไปไกล
พันเอกยายาน โซฟิยาน ผู้บังคับการเรือรบบัง โทโม ให้สัมภาษณ์กับเมโทรทีวี บอกว่าเรือของเขาสามารถกู้ร่างเหยื่อขึ้นมาจากทะเลที่ผันผวนได้ 7 ศพในวันศุกร์ (2 ม.ค.) โดยในนั้น 5 ศพอยู่ในสภาพคาดเข็มขัดติดอยู่กับเก้าอี้ ส่วนผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและช่วยชีวิต เสริมว่ารวมแล้วจนถึงตอนนี้มีศพถูกกู้ขึ้นมา 30 ศพ ซึ่ง 1 ใน 3 เก็บกู้ขึ้นมาได้โดนเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ยูเอสเอ แซมพ์สัน
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการบินบอกว่าโดยทั่วไปแล้วการที่ศพผู้โดยสารและกระเป๋าสัมภาระไม่ได้รับความเสียหายมากมาย และส่วนต่างๆของเครื่องบินยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ บ่งชี้ว่าเครื่องบินดิ่งลงน้ำทั้งลำ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเกิดปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุขัดข้องทางเครื่องยนต์หรือเครื่องยนต์ดับ โดยไม่ได้ระเบิดกลางอากาศหรือสูญเสียความดันในห้องโดยสารกะทันหัน
สำนักข่าวเอพีรายงานต่อว่า จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถระบุเอกลักษณ์บุคคลเหยื่อและส่งมอบแก่ครอบครัวแล้ว 4 ศพ ในนั้นรวมถึงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนหนึ่งและเด็กชายวัย 11 ขวบ