เอเอฟพี - ปากีสถานระบุในวันพฤหัสบดี (25 ธ.ค.) ว่าจะมีการจัดตั้งศาลทหารขึ้นมาจัดการเกี่ยวกับคดีก่อการร้าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการต่อต้านก่อการร้าย หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธบุกโจมตีโรงเรียนจนทำให้มีเด็กตายจำนวนมาก
นายกรัฐมนตรีปากีสถาน “นาวาส ชารีฟ” แจ้งเรื่องนี้ให้คนในชาติได้รับรู้ หลังจากปรึกษาหารือกับบรรดาผู้นำของพรรคการเมืองต่างๆ เป็นเวลาเกือบ 11 ชั่วโมง โดยเขาได้ย้ำว่า จำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อถอนรากถอนโคนพวกกลุ่มหัวรุนแรง พร้อมเตือนด้วยว่าจะไม่มีการปราณีให้กับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงเรียน
เขาได้ประกาศจะจัดตั้งศาลทหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนต่อต้านก่อการร้าย 17 ข้อ หลังจากที่เริ่มกลับมาใช้โทษประหารในคดีก่อการร้ายได้เพียงสัปดาห์เดียว โดยก่อนหน้านี้มีการระงับใช้โทษประหารไปนานถึง 6 ปี แต่ในที่สุดก็มีการทบทวนและใช้ใหม่อีกครั้ง เพราะเหตุโจมตีโรงเรียน ซึ่งถือว่าร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของปากีสถาน
“ศาลพิเศษที่ควบคุมดูแลโดยเจ้าหน้าที่และบุคลากรของกองทัพ จะถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้การพิจารณาคดีก่อการร้ายเป็นไปอย่างรวดเร็ว” เขากล่าว พร้อมทั้งบอกด้วยว่าศาลทหารจะทำหน้าที่เป็นเวลา 2 ปี
“ความโหดร้ายในเปชาวาร์คือสิ่งที่เปลี่ยนปากีสถาน เราจำเป็นจะต้องกำจัดแนวคิดก่อการร้าย ด้วยการเอาชนะพวกหัวรุนแรงและพวกแบ่งแยกนิกาย” ชารีฟกล่าว
เขาระบุว่า การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวครั้งนั้นได้สั่นคลอนประเทศ ตอนที่ผู้ก่อการร้ายสังหารเด็กๆ เท่ากับพวกเขาทำร้ายอนาคตของปากีสถาน
นอกจากตั้งศาลทหาร แผนรับมือผู้ก่อการร้ายยังรวมถึงการตัดความช่วยเหลือด้านการเงินและป้องกันไม่ให้กลุ่มที่ถูกหมายหัวแอบเปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่ในการก่อเหตุ
ชารีฟยังได้ประกาศด้วยว่าจะสร้างกองกำลังพิเศษต่อต้านก่อการร้าย พร้อมทั้งออกกฏระเบียบควบคุมโรงเรียนสอนศาสนา
ยังมีมาตรการอื่นๆ ในแผนรับมือก่อการร้ายฉบับนี้ เช่น การปรับรัฐธรรมนูญ, ปิดกั้นไม่ให้ผู้ก่อการร้ายมีพื้นที่บนสื่อทั้งแบบสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์, ทำลายระบบการติดต่อสื่อสารของพวกเขา, ผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันกลับประเทศ
“ในฐานะที่ผมเองก็เป็นพ่อ ผมเข้าใจเลยว่าโลงศพของลูกมันหนักหนามากแค่ไหนสำหรับคนเป็นพ่อแม่” ชารีฟกล่าวถึงเหยื่อจากเหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียน
“เลือดของเด็กๆ ได้ขีดเส้นแบ่งระหว่างเรากับพวกกลุ่มก่อการร้าย” เขากล่าว
การประชุมระหว่างชารีฟกับบรรดาผู้นำของพรรคการเมืองต่างๆ เกิดขึ้นที่บ้านพักของนายกรัฐมนตรีในกรุงอิสลามาบัด โดยเป็นการหารือเพื่อวางแผนรับมือผู้ก่อการร้าย
“มีเพียงแค่ผู้ก่อการร้ายเท่านั้นที่จะถูกพิจารณาคดีในศาลทหาร ไม่มีการใช้ด้วยวัตถุประสงค์ทางการเมือง” ซีเอด เคอร์ชีด ชาห์ ผู้นำฝ่ายค้านบอกกับเอเอฟพี
“เป้าหมายของการตั้งศาลทหารก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าการพิจารณาคดีผู้ก่อการร้ายจะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทุกวันนี้มันมีช่องโหว่มากมายในระบบยุติธรรมและบางครั้งก็ไม่อาจเอาผิดคนร้ายได้” ชาห์กล่าว
เขาบอกอีกว่า ทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยที่จะให้มีการปรับรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะได้เอื้อต่อการจัดตั้งศาลทหาร
การประชุมดังกล่าวยังได้มีมติเอกฉันท์ร่วมทำสัตยาบัน ประณามเหตุการณ์โจมตีโรงเรียน ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศปากีสถาน
สำหรับการนำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ระงับไป 6 ปีนั้น จะนำกลับมาใช้ในคดีที่เกี่ยวกับก่อการร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ปากีสถานได้ระบุไว้เมื่อวันจันทร์ว่า มีการเตรียมประหารชีวิตราว 500 รายในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่แขวนคอไปแล้ว 6 ราย
ปากีสถานได้ระบุว่า เหตุการณ์นองเลือดที่โรงเรียน ด้วยฝีมือของกลุ่ม เตห์รีค-อี-ตอลิบาน ปากีสถาน (ทีทีพี) เปรียบได้กับเหตุการณ์ 9/11 ขนาดย่อมๆ และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้กับพวกหัวรุนแรง
ชารีฟบอกว่า ปากีสถานจะไม่มีการแยกแยะแล้วว่าใครเป็น “ตอลิบานที่ดี” หรือ “ตอลิบานที่เลว” โดยจะหาทางบดขยี้พวกกองกำลังอิสลามิสต์ที่กำลังแผ่ขยายอำนาจลุกลามอยู่ในประเทศ
ที่ผ่านมา ปากีสถานเคยถูกกล่าวหาว่าคอยให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธที่สามารถใช้งานได้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง