เอเอฟพี - องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนระบุว่า กลุ่มติดอาวุธ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้ยิงเครื่องบินรบของกลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ ตกทางตอนเหนือของซีเรียวันนี้ (24 ธ.ค.) นอกจากนี้กลุ่มนักรบญิฮาดหัวรุนแรงกลุ่มนี้อ้างว่าได้จับนักบินชาวจอร์แดนไว้เป็นตัวประกัน
องค์การ “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ฮิวแมนไรต์ส” ซึ่งมีจุดยืนเป็นปฏิปักษ์ต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียระบุว่า “เราได้รับรายงานยืนยันว่า สมาชิกกลุ่มไอเอสได้จับนักบินชาวอาหรับ (ที่ไม่ใช่ชาวซีเรีย) ไว้เป็นเชลย หลังใช้ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานยิงเครื่องบินรบตกใกล้เมืองรอกเกาะห์”
เครือข่ายกลุ่มไอเอสในเมืองรอกเกาะห์ได้เผยแพร่ภาพชายคนนี้ลงบนเว็บไซต์ของกลุ่มนักรบญิฮาดที่อวดอ้างว่า นักรบไอเอสสามารถจับนักบินเป็นตัวประกัน พร้อมกับระบุใต้ภาพว่าเขาเป็นชาวจอร์แดน และมีชื่อเหยื่อกำกับ
ในหมู่ภาพถ่ายหลายใบที่เผยแพร่ออกมานั้น มีใบหนึ่งเป็นภาพนักบินสวมเสื้อเชิร์ตขาว ถูกสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ 4 คนหิ้วตัวออกมาจากหนองน้ำ
ภาพถ่ายอีกใบเผยให้เห็นชายคนนี้ยืนตกอยู่ในวงล้อมของสมาชิกกลุ่มติดอาวุธราวสิบคน
นักรบญิฮาดกลุ่มนี้อ้างว่า ได้ใช้ขีปนาวุธตรวจจับความร้อนสอยเครื่องบินรบลำดังกล่าวร่วง
องค์การเฝ้าระวังซึ่งมีฐานในอังกฤษแห่งนี้ และอาศัยเครือข่ายแหล่งข่าวที่กระจายตัวอยู่ทั่วซีเรียยังไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลใดๆ มากไปกว่านี้ ขณะที่ทางการจอร์แดนก็ยังไม่ได้ออกมาตอบสนองต่อรายงานข่าวนี้
ทั้งนี้ จอร์แดน คือหนึ่งในหลายประเทศที่กระโดดเข้าร่วมกลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ เพื่อดำเนินปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสทางอากาศ หลังนักรบญิฮัดกลุ่มนี้บุกยึดครองดินแดนอันกว้างใหญ่ในซีเรียและอิรัก
ขณะที่บรรดาประเทศสมาชิกสันนิบาตอาหรับ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จอร์แดน และบาห์เรน กำลังดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย เคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐฯ อยู่นั้น ออสเตรเลีย เบลเยียม อังกฤษ แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ก็ร่วมภารกิจปราบปรามในน่านฟ้าอิรัก
กลุ่มนักรบมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงได้กระทำความชั่วร้ายเลวทรามอย่างกว้างขวางในพื้นที่ซึ่งถูกยึดครอง รวมทั้งก่อเหตุสังหารหมู่ทหารที่ถูกจับเป็นตัวเชลย และการฆ่าตัดศีรษะตัวประกันโชว์ทางคลิปวิดีโอ โดยผู้ตกเป็นเหยื่อมีทั้งผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชาวตะวันตก
กลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ ได้ส่งฝูงบินรบออกไปดำเนินปฏิบัติการทางอากาศ ในเมืองรอกเกาะห์อยู่เป็นประจำ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวคือฐานที่มั่นของดินแดนที่กลุ่มไอเอสประกาศสถาปนาการปกครองแบบ “กาหลิบ” อิสลาม