เอเอฟพี – ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพซีเรียบริเวณเมืองรอกเกาะห์ (Raqa) ซึ่งกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ประกาศให้เป็นเมืองหลวงของรัฐคอลีฟะห์ที่จัดตั้งขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 63 ราย และกว่าครึ่งหนึ่งเป็นพลเรือน องค์กรสิทธิมนุษยชนเผย
การโจมตีโดยกองทัพของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวานนี้(25) ถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เมืองรอกเกาะห์ถูกกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์สุหนี่ยึดไปได้เมื่อปีที่แล้ว
“ในจำนวนผู้เสียชีวิต 63 ราย มีอย่างน้อย 36 รายที่เป็นพลเรือน” รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอน ระบุ
“ยังมีเหยื่ออีกประมาณ 20 คนที่ไม่ทราบว่าเป็นพลเรือนหรือพวกนักรบญิฮาด และยังมีศพที่ชิ้นส่วนกระจัดกระจายอีกอย่างน้อย 7 ร่าง”
อับเดล ราห์มาน ซึ่งอาศัยข้อมูลจากเครือข่ายนักเคลื่อนไหวที่พำนักอยู่ในซีเรีย เผยด้วยว่า “เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง 2 ครั้ง” ในเขตอุตสาหกรรมของเมืองรอกเกาะห์
“พอเกิดการโจมตีครั้งแรก ชาวบ้านก็วิ่งกรูเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บ จากนั้นก็มีการทิ้งระเบิดซ้ำลงมาอีกครั้ง”
คลิปวีดีโอซึ่งถ่ายโดยช่างภาพมือสมัครเล่นเผยให้เห็นร่างโชกเลือดนอนเรียงรายอยู่บนถนนใกล้ๆ กับจุดที่ถูกทิ้งระเบิด โดยมีรถพยาบาลคันหนึ่งแล่นเข้ามาเพื่อรับคนเจ็บ อาสาสมัครบรรเทาทุกข์ซึ่งสวมเสื้อมีสัญลักษณ์ของสภาเสี้ยววงเดือนแดง (Red Crescent) กำลังนำศพผู้เสียชีวิตใส่ลงในถุงบรรจุศพสีขาว
นักเคลื่อนไหวในเมืองรอกเกาะห์ต่างประณามเหตุโจมตีครั้งนี้ว่าไม่ต่างจาก “การสังหารหมู่”
กลุ่มติดอาวุธไอเอสซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2013 ได้บุกยึดเมืองรอกเกาะห์ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดเพียงแห่งเดียวที่รัฐบาลซีเรียสูญเสียการควบคุมหลังสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นเมื่อปี 2011 และได้เปลี่ยนเมืองแห่งนี้ให้เป็นฐานบัญชาการหลักของพวกเขา
นักเคลื่อนไหวภาคพลเรือนและนักรบฝ่ายกบฏในเมืองรอกเกาะห์ที่ต่อสู้กับรัฐบาลอัสซาดต่างถูกไอเอสสังหาร ลักพาตัว หรือไม่ก็ถูกบีบให้หนีออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ของซีเรียและตุรกี
เป็นเวลานานหลายเดือนที่รัฐบาลอัสซาดแทบไม่ได้แตะต้องเมืองรอกเกาะห์ แต่กลับสงวนกำลังพลและอาวุธไว้ถล่มเมืองที่ฝ่ายกบฏยึดครองอยู่มากกว่า ทว่าตั้งแต่ฤดูร้อนปีนี้ รัฐบาลซีเรียเริ่มที่จะใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของไอเอสทางภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศหนักหน่วงขึ้น
สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตกก็ได้ส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย รวมถึงที่เมืองรอกเกาะห์แห่งนี้ด้วย แต่นักเคลื่อนไหวอ้างว่าชาวบ้านในเมืองรอกเกาะห์กลัวการโจมตีจากรัฐบาลอัสซาดมากกว่า เพราะพลเรือนมักจะตกเป็นเหยื่อ
สงครามกลางเมืองในซีเรียทำให้มีประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 7.6 ล้านคน และต้องลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกราวๆ 3.2 ล้านคน
ปัจจุบันมีพลเมืองซีเรียที่รอคอยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมราว 12.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 10.8 ล้านคนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา