เอเอฟพี – การโจมตีทางอากาศของรัฐบาลซีเรียต่อฐานบัญชาการหลักของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในเมืองรอกเกาะห์ได้คร่าชีวิตผู้คนแล้วอย่างน้อย 95 ราย ขณะที่คณะผู้แทนของรัฐบาลเตรียมจัดเจราจากับพันธมิตรสำคัญอย่างรัสเซียเกี่ยวกับการเดินหน้าเจรจาสันติภาพใหม่อีกครั้ง
การทิ้งระเบิดวานนี้ (25) เป็นการโจมตีโดยกองทัพอากาศของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่รุนแรงและนองเลือดที่สุดในเมืองรอกเกาะห์ นับตั้งแต่นักรบหัวรุนแรงสุหนี่ไอเอสเข้ายึดเมืองแห่งนี้เมื่อปีที่แล้วและประกาศให้ที่นี่เป็นเมืองหลวง
ผู้เสียชีวิตมากกว่าครึ่งเป็นพลเรือน กลุ่มเฝ้าสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งติดตามสงครามนี้ผ่านเครือข่ายแหล่งข่าวในพื้นที่ ระบุ
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีนักรบญิฮาดถูกสังหารไปเท่าไหร่
รอกเกาะห์เป็นเมืองเอกของจังหวัดแห่งแรกที่หลุดจากการควบคุมของรัฐบาล และต่อมาถูกรุกรานโดยกลุ่มไอเอส ซึ่งใช้ที่นี่เป็นเมืองหลวงของดินแดน “คอลิฟะห์” ที่พวกเขาสถาปนาขึ้นมาเอง โดยมีอาณาเขตคร่อมซีเรียและเพื่อนบ้านอย่างอิรัก
ความขัดแย้งหลายฝักฝ่ายของซีเรียได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 195,000 รายและบีบให้ประชาชนหลายล้านต้องละทิ้งบ้านเรือน นับตั้งแต่มันเริ่มปะทุขึ้นเมื่อ 3 ปีครึ่งที่ผ่านมาภายหลังการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลอัสซาด
ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้รัฐบาลซีเรียได้ยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อเมืองที่กลุ่มไอเอสยึดครองในภาคเหนือและตะวันออก โดยผู้บาดเจ็บล้มตายที่มีการรายงานมาล้วนเป็นพลเรือนเสียส่วนมาก
นอกจากนี้ เมืองรอกเกาะห์ยังเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางอากาศหลายระลอกโดยกลุ่มพันธมิตรซึ่งนำโดยสหรัฐฯในศึกกวาดล้างนักรบญิฮาดกลุ่มนี้
แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านพลัดถิ่นออกมาประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น “การสังหารหมู่อย่างป่าเถื่อน” พร้อมเตือนว่า “หลายอย่างตอนนี้ดูเหมือนชักนำให้เชื่อว่า อัสซาด คือผู้รับประโยชน์รายใหญ่จาการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ” ต่อนักรบญิฮาดกลุ่มนี้