เกาหลีใต้เพิ่มมาตรการระวังภัยไซเบอร์ เร่งหาตัวคนปล่อยข้อมูลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ระบุในวันนี้ (23 ธ.ค.) ว่าทางการได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อการโจมตีแบบไซเบอร์ ขณะเดียวกันก็มีความกังวลเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง ด้านผู้นำโสมขาวกำชับให้เร่งสืบตามหาตัวคนร้าย

กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ระบุว่า หน่วยงานที่ดูแลด้านไซเบอร์ ได้ยกระดับเฝ้าระวังการโจมตีจากเกาหลีเหนือและแฮ็กเกอร์รายอื่นๆ หลังจากที่ในสัปดาห์ก่อน มีผู้นำข้อมูลเกี่ยวกับผู้ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านทางทวิตเตอร์

หน่วยงานที่ดูแลด้านไซเบอร์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ 400 คน ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มสมรรถภาพในการรับมือการโจมตีบนโลกไซเบอร์ของเกาหลีใต้ ให้สามารถตอบโต้การคุกคามของแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ

ด้านกระทรวงพลังงาน ซึ่งควบคุมดูแลโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ รวมถึงองค์กรอื่นๆ ก็ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์เช่นกัน

สำหรับข้อมูลที่ถูกนำไปโพสต์ไว้ในทวิตเตอร์ มีตั้งแต่การออกแบบและคู่มือของเครื่องปฏิกรณ์ 2 เครื่อง รวมไปถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานกว่า 10,000 ราย ของบริษัท โคเรีย ไฮโดร แอนด์ นิวเคลียร์ เพาเวอร์ (เคเอชเอ็นพี) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 23 เครื่องและเป็นผู้จ่ายไฟฟ้าราว 30 เปอร์เซ็นต์ให้แก่ชาวเกาหลีใต้

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แฮ็กเกอร์ที่ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังการรั่วไหลของข้อมูลเหล่านี้ ได้ขู่ว่าจะปล่อยข้อมูลเพิ่มอีก หากรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ยอมปิดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 เครื่องตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคมเป็นต้นไป พร้อมเตือนชาวบ้านที่อยู่อาศัยในละแวกใกล้เคียงว่าควรอยู่ให้ห่างเครื่องปฏิกรณ์ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

เคเอชเอ็นพี ระบุว่า ข้อมูลที่รั่วไหลนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเครื่องปฏิกรณ์ แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีการซ้อมรับมือเป็นเวลา 2 วัน นับตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ เพื่อทดสอบความสามารถในการตอบโต้การโจมตีบนโลกไซเบอร์

อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มในวันนี้ (23 ธ.ค.) ซึ่งเป็นแผนผังเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโกริและวอลซอง ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล พร้อมด้วยข้อความเย้ยหยันการซ้อมรับมือ

ด้านประธานาธิบดีเกาหลีใต้ "พัค กึน-ฮเย" ได้กำชับคณะรัฐมนตรีของเธอ ให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้านไซเบอร์สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ

"เราต้องคงไว้ซึ่งมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดต่อผู้ก่อการร้ายบนโลกไซเบอร์ ที่มุ่งเป้าโจมตีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์และอาคารสำคัญๆ" เธอกล่าว

"การเผยแพร่ข้อมูลโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของสาธารณะ" พัค กึน-ฮเย กล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสืบหาว่าใครคือผู้ลงมือ