เอเอฟพี - ชายชาวฝรั่งเศสที่ขับรถพุ่งชนคนเดินถนนและตะโกน “อัลลอฮุอักบัร (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่)” ที่เมืองทางภาคตะวันออกของแดนน้ำหอม เคยเข้าโรงพยาบาลจิตเวชถึง 157 ครั้ง และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักรบญิฮัดใดๆ อัยการเผยในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) คลายความกังวลว่ามันอาจเป็นเหตุโจมตีที่มีแรงจูงใจโดยพวกอิสลามิกหัวรุนแรง
เหตุการณ์ในเมืองดิฌง (Dijon) ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 คน เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากชายอีกคนถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังถือมีดไล่แทงตำรวจในเมือง ฌู-เลส์-ตูร์ ทางภาคกลางของประเทศ
ด้วยชายคนดังกล่าวก็ตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบัร (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่)” วลีอิสลามิกที่ก่อนหน้านี้พวกหัวรุนแรงมักใช้หลังก่อเหตุรุนแรง จึงกระพือข่าวลือว่าเหตุโจมตีทั้งสองมีแจงจูงใจจากพวกอิสลามิกหัวรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้นำของฝรั่งเศสรุดออกมาปฏิเสธทันควันต่อความเกี่ยวข้องกันระหว่างสองเหตุการณ์ โดยประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ เรียกร้องประชาชนแดนน้ำหอมอย่าตื่นตระหนก ส่วนโฆษกรัฐบาลก็เตือนถึงการนำเอาทั้งสองเรื่องมาขยำรวมกัน
ในเหตุโจมตีเมื่อวันเสาร์ (20 ธ.ค.) แบร์ทรองด์ โซอาโบนาโย ชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายบุรุนดี ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนไปนับถืออิสลามวัย 20 ปี ถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังบุกถือมีดเข้าไปยังสถานีตำรวจฌู-เลส์-ตูร์ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ
เหตุการณ์นี้ได้ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสสั่งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังสถานีตำรวจ และสถานีดับเพลิงทั่วประเทศ
โซฮาโบนาโย ไม่ได้มีชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าระวังของตำรวจฝรั่งเศสแม้จะเคยก่อคดีลหุโทษหลายครั้ง ทว่าพี่ชายของเขาเป็นที่ทราบว่ามีแนวคิดหัวรุนแรง และเคยวางแผนเดินทางไปซีเรีย ขณะที่หน่วยข่าวกรองเผยในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ว่าพี่ชายของนายโซฮาโบนาโย ถูกจับตัวไม่นานหลังจากเกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ (20 ธ.ค.) และถูกสอบปากคำแล้ว
แผนกต่อต้านก่อการร้ายของสำนักงานอัยการฝรั่งเศส รุดเข้ามาสืบสวนเหตุโจมตีนี้ทันทีท่ามกลางการเฝ้าระวังขึ้นสูงสุดต่อการโจมตีแบบฉายเดี่ยว ซึ่งอาจเป็นพลเมืองที่เดินทางไปร่วมต่อสู้กับนักรบญิฮัดในต่างแดนและกลับมาวางแผนทำลายบ้านเกิด หรือไม่ก็บุคคลที่คล้อยตามแนวคิดของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งเรียกร้องให้ชาวมุสลิมก่อเหตุรุนแรงในแดนน้ำหอม ตอบโต้กรณีเข้าร่วมพันธมิตรต่อต้านไอเอสในอิรักและซีเรีย
นายแบร์ทรองด์ โซอาโบนาโย โพสต์รูปธงของกลุ่มรัฐอิสลามลงบนเฟซบุ๊กในวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.) แต่กลุ่มบุคคลที่รู้จักเขาบอกในช่วงสุดสัปดาห์ ไม่เชื่อว่าการโจมตีครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับประเด็นอิสลามิกหัวรุนแรง
ส่วนในเหตุโจมตีที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ (21 ธ.ค.) ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับตำรวจว่าผู้ลงมือก็ตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบัร (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่)” เช่นกัน และคนขับมีเป้าหมายพุ่งชนคนเดินถนน 5 จุดในเมืองดิฌง ในเหตุอาละวาดที่กินเวลาราวครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เขาจะถูกจับกุม
นายแบร์นาร์ด คาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ซึ่งลงพื้นที่เกิดเหตุในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) บอกว่ามีประชาชน 13 คนได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครที่อาการถึงขั้นวิกฤต ส่วนมารี-คริสแตง ทาร์แรร์ อัยการท้องถิ่นบอกกับผู้สื่อข่าวว่าชายคนดังกล่าวที่เกิดปี 1974 เคยมีประวัติผิดปกติทางจิตรุนแรงและเรื้อรัง ด้วยเคยเข้าโรงพยาบาลจิตเวชถึง 157 ครั้ง
อัยการท้องถิ่นหญิงรายนี้ เล่าว่า ผู้ต้องสงสัยอ้างกับตำรวจว่าเขาขับรถเข้าชนฝูงชน เพราะว่าอารมณ์แห่งความเห็นใจเด็กๆ ชาวเชเชนระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน “เขาไม่ได้มีแรงจูงใจทางศาสนา แต่เขาบอกว่ามันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองในทางการเมือง” อัยการระบุ พร้อมเผยว่าจากการตรวจค้นที่ไม่พบอะไรในบ้านของครอบครัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ บ่งชี้ว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกรัฐอิสลามหรือกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ