เอเจนซีส์ - ตำรวจปราบจลาจลฝรั่งเศสCRS จับกุมผู้ประท้วงไม่ต่ำกว่า 77 คนเมื่อวานนี้(2)กลางกรุงปารีส หลังมีการเดินขบวนประท้วงการประทำที่เกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ในการเข้าสลายการประท้วงของกลุ่มนักอนุรักษ์ในการต่อต้านโครงการสร้างเขื่อนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศในวันที่ 26 ตุลาคม 2014 และทำให้รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส แบร์นาร์ด กาเซโนเว (Bernard Cazeneuve) ต้องสั่งยกเลิกการใช้ระเบิดเสียง (Stun grenade) ทันที
ในช่วงเย็นหลังจาก 18.00 น. ตำรวจปราบจลาจลฝรั่งเศสCRS แถลงว่าสามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้ประท้วงอย่างน้อย 77 คนในกรุงปารีส หลังจากนับตั้งแต่ช่วงเช้าของวันอาทิตย์(2)มีการรวมตัวประท้วงที่ไม่ได้ขออนุญาตล่วงหน้าเพื่อต่อต้านการกระทำของเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลที่ทำการรุนแรงในการเข้าสลายการประท้วงของกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการสร้างเขื่อนซีวองส์ ( Sivens )มูลค่า 7 ล้านยูโรทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และทำให้รอมี เฟรซซ์ (Remi Fraisse) เสียชีวิตจากระเบิดเสียง (Stun grenade)ที่ถูกยิงมาจากตำรวจปราบจลาจลในช่วงเช้าวันที่ 26 ตุลาคม โดยเขาถูกระเบิดเสียงยิงใส่จากด้านหลัง
โดยองค์กรที่จัดการประท้วงเมื่อวานนี้(2) ได้เตือนให้ผู้เข้าร่วมสวมหมวกนิรภัยไว้ล่วงหน้าก่อนเข้าร่วมแสดงพลังที่มีตำรวจปราบจลาจลฝรั่งเศส CRS หลายพันนายเข้าควบสถานการณ์ โดยก่อนช่วงบ่ายแก่ เกิดการปะทะขึ้นระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่บริเวณสถานี สตาลลินกราด เมโทร (Stalingrad metro) ซึ่งเป็นจุดนัดพบของผู้ประท้วงที่การประท้วงได้เริ่มขึ้นหลังจากเวลา 15.00น.ไปแล้ว
ตำรวจ CRS ที่อยู่ในที่เกิดเหตุในให้สัมภาษณ์ว่า “พวกหัวรุนแรงหลายร้อยคนตั้งเป้าที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเราจะใช้ทุกวิธีที่จะรักษาความสงบ และในขณะเดียวกันเราต้องทำให้มั่นใจว่าเจ้าพนักงานที่ปฎิบัติหน้าที่ต้องปลอดภัย” โดยพบว่าตำรวจปราบจลาจลฝรั่งเศษใช้กระบอง กระสุนยาง และแก๊สน้ำตาเพื่อเข้าสลายการประท้วงที่ลุกลามเป็นจลาจลในท้ายที่สุด
แต่ในทางกลับกัน กลุ่มผู้ประท้วงต่างเผยว่าตำรวจฝรั่งเศสใช้ความรุนแรงเข้าสลายม็อบ “โดยอ้างว่าทางตำรวจใช้วิธีการเดียวกันพวกเขา และกับการประท้วงสร้างเขื่อนซีวองส์ก่อนหน้านี้ และเป็นผลทำให้เฟรซซ์เสียชีวิต ซานดรีน บิสเซต (Sandrine Bisset) หนึ่งในผู้ประท้วงวัย 19 ปีให้ความเห็นว่า “ตำรวจ CRS ใช้กระบองและระเบิดชนิดต่างๆเข้าสลาย ซึ่งตำรวจพวกนี้ทำตัวเหมือนโจร พวกเขาตรงรี่เข้าทำร้ายทุกคนที่อยู่ตรงหน้า” และในขณะที่บิสเซตกำลังให้สัมภาษณ์ ตำรวจนอกเครื่องแบบหน่วยหนึ่งกำลังจับกุมกลุ่มใช้ความรุนแรงก่อจลาจล และตำรวจ CRS กำลังพ่นกระป๋องแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ประท้วง
ซึ่งก่อน 18.00น. เมื่อวานนี้(2) ตำรวจ CRS แถลงว่า มีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 77 คนถูกจับกุม
และในวันเสาร์(1) มีตำรวจอย่างน้อย 5 คนในน็องต์ได้รับบาดเจ็บจากน้ำกรด รวมไปถึงกระดูกหัก และเจ้าหน้าที่อื่นบาดเจ็บในตูลูซ ที่ซึ่งมีผู้ประท้วงจำนวนราว 1,000 คน สวมเสื้อฮูดและหน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าออกมาก่อเหตุความรุนแรง
ในที่ชุมนุม ผู้ประท้วงต่างตะโกน “ตำรวจ....ไอ้ฆาตกร” ดังลั่นอย่างต่อเนื่อง มีการจักบกุมในน็องต์จำนวน 21 คน และอีก 13 คนในตูลูซ
ด้านนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส มานูเอล วาลส์ (Manuel Valls) ได้ประนามเหคุจลาจล พร้อมตำหนิว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นถือเป็นการไม่ให้เกียรติต่อการเสียชีวิตของรามี เฟรซซ์ ซึ่งการเสียชีวิตของนักอนุรักษ์ชาวฝรั่งเศสวัย 21ปี ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986 โดยฝีมือเจ้าหน้าที่ซึ่งยิงระเบิดเสียงเข้าใส่ และส่งผลกดดันรัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส แบร์นาร์ด กาเซโนเว (Bernard Cazeneuve) สมควรพิจารณาลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ และเป็นผลทำให้เจ้ากระทรวงมหาดไทยสั่งหยุดการใช้ระเบิดเสียงทันที เพราะจุดประสงค์การใช้เพื่อ “หยุดยั้งการประท้วง” ไม่ใช่ “สังหารผู้ประท้วง”
ทั้งนี้เฟรซซ์ เป็นหนึ่งในนักอนุรักษ์ราว 2,000 คนที่ต่อต้านโปรเจกต์สร้างเขื่อน Sivens เนื่องจากเชื่อว่าจะทำลายระบบนิเวศน์โดยสิ้นเชิง และหลังจากวันที่ 26 ตุลาคมเป็นต้นมา ทำให้โปรเจกต์นี้ต้องถูกสั่งพักลงชั่วคราว
และถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เขย่าเสถียรภาพรัฐบาลของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟร็องซัวส์ ออลล็องด์ ที่มีความนิยมตกต่ำสุดเหลือแค่ 13 % จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะงักงันของแดนน้ำหอม มีประชาชนหลายล้านคนต่างไม่พอใจในการบริหารของเขา