เอเจนซีส์ - “แคนาดา” ยกระดับการเตือนภัยก่อการร้าย ภายหลังทหารนายหนึ่งถูกผู้ต้องสงสัยฝักใฝ่อิสลามิสต์หัวรุนแรงขับรถพุ่งชนเสียชีวิต โดยชายหนุ่มรายนี้อยู่ในการจับตาของตำรวจมาระยะหนึ่ง ทว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอเข้าจับกุม ขณะเดียวกัน ทางด้านอังกฤษเตรียมประกาศกฎหมายใหม่เพื่อสกัดไม่ให้มูลนิธิการกุศลใช้เป็นฉากบังหน้าระดมทุนอัดฉีดกลุ่มนักรบญิฮัด
ฌอง-คริสตอฟ เดอ เลอ รู โฆษกกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของแคนาดา แถลงเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.) ว่า การยกระดับการเตือนภัยจากระดับต่ำสู่ระดับกลาง คราวนี้หมายความว่า ทางการได้รับข่าวกรองบ่งชี้ว่า มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลภายในหรือภายนอกประเทศซึ่งมีเจตนาและความสามารถในการก่อการร้าย แต่ไม่ได้หมายความว่า มีภัยคุกคามเฉพาะเจาะจงเกิดขึ้นกับประเทศในขณะนี้
อย่างไรก็ดี การประกาศนี้มีขึ้นหลังเหตุการณ์ที่ มาร์ติน กูตูร์-รูโลว์ ชายวัย 25 ปี ขับรถกระบะพุ่งชนทหาร 2 นายในลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองควิเบก เป็นผลให้ทหารนายหนึ่งเสียชีวิต และอีกนายได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวผู้ก่อเหตุถูกตำรวจยิงเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากแคนาดาประกาศส่งเครื่องบินร่วมถล่มกองกำลังนักรบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เมื่อต้นเดือนนี้ อีกทั้งเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกับพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงครั้งแรกที่เกิดขึ้นในแคนาดา
ในการแถลงข่าววันอังคาร (21) สตีเวน บลานีย์ รัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะ ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับการก่อการร้าย
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศ ร็อบ นิโคลสัน สำทับว่า การเสียชีวิตของทหารจากการกระทำไร้เหตุผลนี้ ตอกย้ำความชอบธรรมในการตัดสินใจของแคนาดาในการร่วมปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรง เช่น ไอเอส
ตำรวจที่สอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวเผยว่า ภายหลังก่อเหตุ กูตูร์-รูโลว์ได้ขับรถหนี ทว่า ในระหว่างนั้น เขาได้โทรศัพท์แจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นต่อบริการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ก่อนขับรถพุ่งลงคูน้ำข้างทางและหนีออกจากรถพร้อมมีดในมือ จึงถูกตำรวจยิงเสียชีวิต
ทางการแคนาดาเผยว่า ยังไม่ทราบแรงจูงใจในเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ดี ตำรวจควิเบกกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเป็นการก่อการร้าย แต่ไม่ได้ระบุความเชื่อมโยงระหว่างผู้ก่อเหตุรายนี้กับกลุ่มนอกกฎหมายใดๆ
ขณะเดียวกัน บ็อบ พอลสัน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแคนาดา (RCMP) แถลงว่า กูตูร์-รูโลว์เคยถูกควบคุมตัวช่วงสั้นๆ ที่สนามบินแห่งหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะพยายามเดินทางไปตุรกี โดยถูกระบุว่า เป็นบุคคลที่อาจก่ออาชญากรรมเพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อการร้าย ทว่า ตำรวจไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะจับกุม
มาร์ติน ฟองแตน โฆษก RCMP สำทับว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวของกูตูร์-รูโลว์ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางการ เนื่องจากกังวลกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขา ตำรวจจึงไปพูดคุยกับกูตูร์-รูโลว์ รวมทั้งอิหม่ามที่เขานับถือ และสมาชิกชุมชนคนอื่นๆ เพื่อพยายามโน้มน้าวให้เขาถอนตัวหรือหลีกเลี่ยงการกระทำผิด
ฟองแตนเสริมว่า หน้าเฟซบุ๊กของกูตูร์-รูโลบ่งชี้ว่า เขาเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามเมื่อปีที่แล้ว และเริ่มฝักใฝ่ในลัทธิหัวรุนแรง รวมทั้งต้องการเดินทางไปร่วมรบกับนักรบญิฮัด ซึ่งทำให้เขาเป็น 1 ในชาวแคนาดา 90 คนที่ถูกทางการจับตาว่า อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ
กระนั้น ในการพบปะครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา ชายหนุ่มสารภาพกับตำรวจว่า ต้องการแก้ไขพฤติกรรมที่มีปัญหาของตนเอง
การก่อเหตุของกูตูร์-รูโล ยังมีขึ้นหลังจากเดือนที่ผ่านมา โฆษกกลุ่มไอเอสเรียกร้องผู้สนับสนุนที่อยู่ในประเทศกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงแคนาดา โจมตีเพื่อนร่วมชาติที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม
ปัจจุบัน ประเทศตะวันตกกำลังหวั่นเกรงว่า ประชาชนของตนอาจไปร่วมรบกับไอเอสในอิรักและซีเรีย และวันหนึ่งอาจกลับไปก่อเหตุในบ้านเกิด จึงพากันเร่งรัดกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นนักรบต่างชาติเหล่านี้
แคนาดานั้นระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 50 คนเกี่ยวข้องในกิจกรรมการก่อการร้ายร่วมกับไอเอสและนักรบกลุ่มอื่นๆ ในตะวันออกกลาง และสัปดาห์ที่แล้ว มีการประกาศแผนเพิ่มอำนาจหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในการตามรอยผู้ต้องสงสัยเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายที่เดินทางไปต่างประเทศ
ในส่วนของอังกฤษมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน เตรียมประกาศในวันพุธ (22) ยกระดับกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้มูลนิธิการกุศลใช้เป็นฉากบังหน้าเพื่อระดมทุนไปให้กลุ่มก่อการร้าย
กฎหมายนี้จะครอบคลุมถึงการห้ามผู้ที่มีประวัติอาชญากรรมบางประเภท เช่น ฟอกเงิน หรือกระทำการเข้าข่ายก่อการร้าย ร่วมเป็นทรัสตีในมูลนิธิการกุศล