เอเอฟพี - คดีหญิงชาวออสเตรเลียที่สังหารลูก-หลาน 8 ศพ ขึ้นศาลแดนจิงโจ้เป็นครั้งแรกในวันนี้ (22 ธ.ค.) โดยทางผู้พิพากษาได้ปฏิเสธคำร้องของทนายจำเลยที่อยากให้มีการพิจารณาคดีกันในศาลสุขภาพจิต ด้านสภารัฐควีนส์แลนด์เผยเตรียมสร้างอนุสรณ์สถานทับบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ
ที่ศาลเมืองแคนส์ในวันนี้ (22 ธ.ค.) สตีเวน แมคฟาร์เลน ทนายจำเลยระบุว่า ลูกความของเขากำลังเข้ารับการรักษาตัวและจะถูกประเมินผล เมื่อประเมินผลแล้วอาจจะต้องเปลี่ยนไปพิจารณาคดีในศาลสุขภาพจิต
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาได้ปฏิเสธคำร้องดังกล่าวของทนายจำเลย ที่อยากให้การพิจารณาคดีครั้งหน้า ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม ดำเนินการโดยศาลสุขภาพจิต
แมคฟาร์เลน บอกอีกว่า จำเลยซึ่งไม่ได้เข้ามารับฟังการพิจารณาคดีที่ศาลเพราะรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในโรงพยาบาลโดยมีตำรวจคอยดูแล เธอยังต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะยอมรับให้ได้ในสิ่งที่เกิดขึ้น
"ผมได้คุยกับเธอ เธอพยายามทำดีที่สุดแล้วในตอนนั้น ผมเองก็ไม่ใช่หมอ แต่ผมว่าเธอเองก็อาจจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ไม่ได้ตระหนักถึงมันอย่างแท้จริง น่าจะยังเยียวยาได้ แต่นี่ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น" เขาบอกกับนักข่าวด้านนอกศาล
ไรนา เมอร์เซน อินา ไทเดย์ หญิงชาวออสเตรเลียวัย 37 ปีที่รู้จักกันในชื่อ เมอร์เซน วาร์เรีย ถูกกล่าวหาว่าก่อคดีฆาตกรรม 8 กระทง หลังจากที่มีการพบศพเด็กๆ อยู่ในบ้านหลังหนึ่งในเมืองแคนส์ เมื่อเช้าวันศุกร์ (19 ธ.ค.)
ศพของเด็กทั้ง 8 รายที่พบนั้น เป็นลูกของเธอ 7 ราย ส่วนอีก 1 รายเป็นหลานของเธอ เด็กเหล่านี้เป็นชาย 4 ราย หญิง 4 ราย มีอายุระหว่าง 2 - 14 ปี
ในขณะที่มีการพิจารณาคดี ทางด้านสมาชิกสภารัฐควีนส์แลนด์ "เกวิน คิง" ก็ระบุว่า บ้านหลังที่มีการพบศพเด็ก ซึ่งเป็นบ้านพักสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้ในย่านชานเมืองมานูรา จะถูกทุบทำลายทิ้งแล้วสร้างอนุสรณ์สถานลงไปแทน
"มันเป็นสิ่งที่ควรจะทำเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ทั้งครอบครัวผู้เสียหายและชาวบ้านในละแวกนั้น รวมถึงชุมชนอื่นๆ ที่พากันช็อคเพราะโศกนาฏกรรมครั้งนี้" คิงบอกนักข่าว
"ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เช้าวันเสาร์ แล้วผมก็ยังไม่ได้ยินใครพูดเลยว่าอยากจะให้บ้านหลังนั้นคงอยู่แบบนั้น กรรมการบริหารทุกคนลงมติกันเป็นเอกฉันท์ว่าอยากจะเห็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ตรงนั้นมากกว่า" เขากล่าว
คิงบอกด้วยว่า เขาได้พูดคุยกับตัวแทนของครอบครัวผู้ตาย ชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ว่าอนุสรณ์สถานแบบไหนกันที่พวกเขาอยากได้
"จากที่ได้พูดคุยกับคนมากมาย พวกเขาอยากได้อนุสรณ์สถานเพื่อที่จะได้เอาไว้ใช้เคารพสักการะ นอกจากนี้เด็กๆ และผู้คนในชุมชนยังสามารถใช้ในกรณีอื่นๆ ได้อีกในระยะยาว" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ระบุไว้เมื่อวันเสาร์ (20 ธ.ค.) ว่าบริเวณสถานที่เกิดเหตุนั้นยังคงมีเจ้าหน้าที่สืบสวนทำงานกันอยู่ โดยบอกว่าเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลานาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กๆ แต่ได้ระบุว่า พวกเขากำลังมองหาสถานการณ์ความเป็นไปได้รูปแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงการขาดอากาศหายใจ