พม.ลงพื้นที่ช่วยเหลือสาวพิการพร้อมจัดหาทนายสู้กรณีร้อง รพ.ทำลูกตาย

กระบี่ - พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระบี่ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือสาวพิการ หลังร้องหมอทำลูกตาย พร้อมจัดหาทนายความฟ้องดำเนินคดีให้หากตกลงกันไม่ได้ ขณะที่ สสจ.ระบุส่วนหนึ่งอาจเกิดจากคำพูดของผู้ให้บริการทำให้เกิดความไม่พอใจ

จากรณี น.ส.สุทิสา เทพสันตา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.1 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ เป็นหญิงพิการร่างกายแขนขา ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่ทางโรงพยาบาลเขาพนม อ.เขาพนม ทำให้ลูกในท้องเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่ ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 1 ได้เข้าตรวจเยี่ยมที่บ้านของ น.ส.สุทิสา เทพสันตา อายุ 38 ปี หญิงพิการซ้ำซ้อน พูดไม่ชัด ขาลีบ และหลังโก่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือหลังเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ กรณีไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเขาพนม ก่อนส่งต่อไปที่โรงพยาบาลกระบี่ แต่สุดท้ายลูกชายในท้องเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม57 โดย น.ส.สุทิสา เชื่อว่าหากทางโรงพยาบาลเขาพนม ส่งตัวในวันที่ขอใบส่งตัวเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนก็คลอดลูกสาวมาแล้ว ตอนนี้ อายุ 7 ขวบ ซึ่งมีร่างกายปกติ แข็งแรงสมบูรณ์

ด้านนายกิตติ อินทรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในเบื้องต้น ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมแนะนำเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติ โดยมีคณะกรรมการไกล่เกลี่ยที่ทางจังหวัดแต่งตั้ง ประกอบด้วย ตัวแทนจากสำนักงานอัยการ ทนายความ ตัวแทนผู้พิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเจรจากับทางโรงพยาบาลคู่กรณี ซึ่งหากการเจรจาไม่สำเร็จก็จะดำเนินการจัดหาทนายความฟ้องร้องดำเนินคดีตามกระบวนการ โดยค่าใช่จ่ายต่างๆ เช่น ในการเดินทาง ติดต่อประสานงานทนายความทางพัฒนาสังคมฯ จะเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด หลังจากนั้น ก็จะเข้าช่วยเหลือในด้านการส่งเสริมอาชีพของผู้พิการด้วย เพราฐานะยากจนอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่แน่นนอน

ขณะที่ นายแพทย์พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางโรงพยาบาลเขาพนมถึงกรณีที่เกิดขึ้นแล้วว่า สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กทารกในครรภ์เกิดจากสาเหตุใด เกิดจากกระบวนการรักษาปกติ หรือเกิดจากพฤติกรรมการบริการของเจ้าหน้าที่ ส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าการพูดจาของเจ้าหน้าที่ก็มีส่วนทำให้ผู้รับบริการไม่พอใจด้วย ซึ่งคาดว่าใช้เวลาในการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องประมาณ 30 วัน ก็จะทราบผล ส่วนกรณีที่จะมีการพิสูจน์ศพเด็กหรือไม่นั้นคงยังไม่ถึงขั้นนั้นซึ่งคาดว่าน่าตกลงกันได้